3 เส้นทางสร้างแรงบันดาลใจของ 3 คนเก่งในวงการสร้างสรรค์

ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตกันแบบแข่งกับเวลา เราตื่นเช้า ขับรถบนถนนเส้นเดิมๆ เพื่อไปทำงาน หมดวันก็ขับกลับทางเดิมอีกครั้งเพื่อกลับบ้าน กิจวัตรที่ซ้ำซากอาจทำให้ใครหลายคนหลงลืมการออกไปหาความท้าทายหรือความตื่นเต้นใหม่ๆ ให้กับชีวิต

การออกนอกเส้นทางให้อะไรมากกว่าแค่การวิ่งหนีความจำเจ บางคนเปลี่ยนเส้นทางเพราะอยากเซฟเวลา บางคนเลือกออกนอกเส้นทางเพราะอยากมองเห็นชีวิตในมุมใหม่ หรืออาจเพียงแค่พักใจจากความเหนื่อยล้า ในหนึ่งวันเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน หากเราแบ่งเวลาพาตัวเองออกไปทำกิจกรรมที่ยังไม่เคยทำ หรือเดินสำรวจสถานที่ที่เราไม่เคยไป เชื่อเถอะว่าเรื่องราวและบรรยากาศแปลกใหม่ที่ได้พบเห็นระหว่างทางจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ความกลัวอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนไม่เชื่อเรื่องการออกนอกเส้นทาง แต่ Find your V Route แคมเปญแบ่งปันแรงบันดาลใจจาก Honda Life Crossover เชื่อว่าไม่ว่าใครก็สามารถขีดเส้นทางใหม่ให้ชีวิตตัวเองได้ เหมือนกับเรื่องราวของสามหนุ่มสาวเจ้าของผลงานสร้างสรรค์ที่น่าจับตาจากแวดวงดีไซเนอร์อย่าง วิค–ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน, อิ้งค์–วรันธร เปานิล ศิลปินสาว และ พงษ์–ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพสตรีทระดับโลก

แม้ว่าเส้นทางชีวิตของพวกเขาจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทั้งสามกลับเลือกเอาชนะความกลัวนั้นด้วยความเชื่อหนึ่งเดียวกันที่ว่า การออกจากเส้นทางเดิมๆ คือการเติมพลังชีวิตให้กับตัวเอง เติมแรงบันดาลใจให้กับผลงานสร้างสรรค์ที่พวกเขารัก

นี่คือเรื่องราวของเส้นทางให้แรงบันดาลใจที่คนทั้งสามค้นพบ เรื่องราวที่จะพิสูจน์ว่าความกล้าในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นคุ้มค่า


วิค–ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ V Activewear
สวนสาธารณะ สถานที่สำหรับเล่นโยคะ

วิค–ธีร์รัฐ ว่องวัฒนะสิน คือดีไซเนอร์มากความสามารถเจ้าของแบรนด์ V Activewear แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับคนเล่นโยคะและเล่นเซิร์ฟบอร์ด จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้คือความสนใจที่วิคมีให้กับโยคะ กิจกรรมที่เขาเลือกทำเพราะอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง

“ทุกครั้งที่ผมจะตัดสินใจทำอะไร ผมจะต้องรู้สึกว่าตัวเองรู้ในเรื่องนั้นจริงๆ ก่อน อย่างการทำแบรนด์นี้ ผมต้องได้ใบรับรองสอนโยคะ ผมต้องรู้ว่ารูปร่างคนเป็นยังไง การเคลื่อนไหวต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนไหน แล้วเอามันกลับมาใช้กับการออกแบบ”

จุดหมายปลายทางที่ดีไซเนอร์ผู้รักการเล่นโยคะคนนี้เลือกมาคือสถานที่แสนสงบเงียบอย่างสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ใจกลางเมือง

วิคมองว่าการเปลี่ยนสถานที่ในการฝึกโยคะ บรรยากาศตรงนั้นไม่ได้ช่วยแค่เรื่องการสร้างสมาธิ ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าและการใช้ชีวิตของเขาด้วย

“เอาจริงๆ ผมว่ามันเหมือนเป็นการซึมซับอะไรใหม่ๆ มากกว่า เหมือนถ้าเราอยู่กับที่ เราเล่นที่เดิมเราก็มันได้บรรยากาศเดิมๆ พอมันได้เล่นที่ใหม่ มันเหมือนเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศแล้วทำให้ประสบการณ์เดิมของเราน่าสนใจมากขึ้น

“คอลเลกชั่นใหม่ที่ผมทำคือชุดว่ายน้ำที่ใส่ได้สองด้าน ด้านหนึ่งมันแสดงถึงความ urban แบบคนเมือง อีกด้านหนึ่งก็แสดงถึงไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบการผจญภัย คอนเซปต์นี้มันสะท้อนมาจากชีวิตปกติที่เราจะทำงานอยู่แต่ในเมือง แต่วันไหนที่พอมีเวลาว่างผมก็พยายามขับรถไปต่างจังหวัดเพื่อหากิจกรรมสนุกๆ ทำ”

“ดีไซเนอร์ต้องช่างสังเกต อะไรต่างๆ รอบตัวเรามันเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าได้หมด ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองมันต่างจากคนอื่นยังไง สำหรับคนที่ยังใช้ชีวิตเดิมๆ อยู่ ผมว่าแค่หาจุดใหม่ในการแวะระหว่างทาง มันจะทำให้เราเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ถึงแม้จะดีหรือไม่ดี เราเอามันมาปรับใช้กับชีวิตเราได้”


อิ้งค์–วรันธร เปานิล นักร้องและนักแต่งเพลง
สถานที่พักผ่อนที่มีความเป็นธรรมชาติไม่ไกลจากกรุงเทพฯ

ชีวิตประจำวันของอิ้งค์–วรันธร เปานิล นักร้อง นักแต่งเพลงสาวคนเก่งจาก Boxx Music อาจไม่แตกต่างอะไรกับศิลปินชื่อดังคนอื่นๆ พวกเขาต้องออกไปซ้อมที่ห้องซ้อม หากวันไหนมีงานก็ต้องออกไปเล่น ตารางชีวิตที่แน่นเอี้ยดทำให้ชีวิตพวกเขามีเพียงแค่การทำงานและการกลับบ้านเพื่อนอนพัก

ท่ามกลางชีวิตที่เต็มไปด้วยแสงสี เสียงจากดนตรี และแฟนๆ รอบตัว เธอไม่ลืมที่จะมองหาสถานที่ๆ เธอจะสามารถปล่อยตัวเองไปกับเสียงลมและเสียงธรรมชาติ หนึ่งในสถานที่หยุดพักที่เธอชื่นชอบก็คือย่านชายทะเลที่ใกล้กรุงเทพฯ อย่างบางขุนเทียน

“เราชอบไปเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆ ออกมากินข้าว ออกมาดูธรรมชาติ การนั่งที่เงียบๆ มันทำให้เราได้ตัดตัวเองออกจากความวุ่นวายและสิ่งที่เรามี ได้พักเพื่อให้ตัวเองมีแรงไปทำงานต่อ หลายคนอาจจะคิดว่าการหยุดพักมันเสียเวลาหรือเปล่า จริงๆ แล้วการหยุดพักเนี่ยทำให้เราได้พบเจออะไรใหม่ๆ เยอะเหมือนกันนะ

“ปกติเวลาเราเล่นไลฟ์คอนเสิร์ตบนเวทีทุกอย่างจะต้องเป๊ะ อย่างวันนี้เราอยากจะร้องเพลง เกี่ยวกันไหม ท่ามกลางธรรมชาติดูบ้าง มันทำให้เราได้เห็นเพลงที่ตัวเองเล่นมาเป็นร้อยๆ รอบในเวอร์ชั่นใหม่ เป็นเวอร์ชั่นชิลล์และสบายใจที่สุดเท่าที่เคยเล่นมาเลยค่ะ”


พงษ์–ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ช่างภาพสตรีท
ย่านท้องถิ่นต่างๆ ในกรุงเทพที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม

ท่ามกลางกระแสการถ่ายภาพสตรีทช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ชื่อของช่างภาพสตรีทคนไทยที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงระดับโลกอย่าง ทวีพงษ์ ประทุมวงษ์ ถูกเอ่ยขึ้นมาให้เราได้ยินนับครั้งไม่ถ้วน เพราะผลงานภาพสตรีทชวนฉงนและให้อารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ หลายคนมักเปรียบภาพสตรีทดีๆ ว่าเป็นเรื่องของดวง แต่สำหรับทวีพงษ์ ความสำเร็จในภาพของเขาไม่ได้มาด้วยดวงเพียงอย่างเดียว

“จริงๆ มันมากับทุกอย่างนะ แต่โดยหลักมันอยู่ที่การฝึกฝนด้วย ภาพที่ดีไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะได้แล้วมันจะมาเลย เพราะฉะนั้นคุณต้องขยันออกไปข้างนอกบ่อยๆ ภาพสตรีทมันเหมือนกับงานทุกประเภท ยิ่งคุณฝึกฝนก็ยิ่งมีโอกาสได้ผลงานที่ดี ยิ่งเดินเยอะก็ยิ่งมีโอกาสได้เจอภาพที่ดี”

ทวีพงษ์เสริมว่าการเดินแต่ละครั้งย่อมพบเห็นรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน การหาแรงบันดาลใจในการทำงานเริ่มต้นได้ง่ายๆ แค่การลองเดินทางลัดหรือเดินอ้อมจากเส้นทางที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญคือต้องรู้จักสังเกตบรรยากาศและสิ่งรอบตัวให้ละเอียดขึ้นเพื่อให้เราได้เจอกับมุมมองใหม่ๆ

ช่างภาพแต่ละคนย่อมมีเส้นทางและสถานที่ที่ตัวเองชื่นชอบแตกต่างกัน บางคนอาจจะตื่นเต้นกับย่านใหม่ๆ ที่ตัวเองไม่เคยไป แต่สำหรับช่างภาพสตรีทชื่อดังระดับโลกคนนี้ ย่านที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างเยาวราชและซอยนานาคือย่านที่ทำให้เขาตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปเยือน

การเดินในเส้นทางเดิมครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะเจ้าตัวชวนลูกสาวตัวน้อยมาร่วมถ่ายรูปสตรีทในโปรเจกต์เล็กๆ อย่าง Then & Now ด้วย

 “ผมอยากเอางานภาพของตัวเองมารวมกับชีวิตครอบครัวครับ ปกติเราทำแต่โปรเจกต์ภาพสตรีทที่ต้องออกไปเดินคนเดียวจนละเลยเวลาที่จะได้ทำอะไรสนุกๆ กับลูก ผมอยากชวนเขาไปในที่ๆ ผมเคยไปเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ไปดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แล้วลองให้ลูกสาวเราไปยืนในโมเมนต์นั้น

“ช่างภาพหลายคนชอบเดินบนเส้นทางเดิม เพราะยิ่งเดินบ่อยก็จะยิ่งชินว่าแสงจะลงตรงไหน จุดไหนที่มีซับเจกต์เดินมาบ่อยๆ เล็งมุมไว้ก่อนได้เลย ส่วนตัวเรารู้สึกว่าการที่ช่างภาพมองเห็นสิ่งที่จะถ่ายก่อนมันแปลว่าเราเคยเห็นภาพนั้นมาแล้ว ซึ่งบางครั้งมันอาจจะเป็นไอเดียที่ซ้ำกับคนอื่น หลังๆ ผมเลยเดินแบบไม่คิดเลยครับว่าภาพเฟรมสุดท้ายมันจะออกมาเป็นยังไง

“จริงๆ การออกไปหาเส้นทางใหม่ๆ บ้างอย่างหนึ่งมันก็คือการได้รีเฟรชตัวเอง คนถ่ายสตรีทอย่างเราต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้เลยว่าโมเมนต์นั้นมันจะเกิดขึ้นวินาทีไหน สิ่งสำคัญของคนถ่ายสตรีทคือ ‘คุณต้องออกไปเดิน’ แค่นั้นเลยครับ”


นอกจากเรื่องราวของเส้นทางสร้างแรงบันดาลใจที่คนทั้งสามแบ่งปันให้เราฟังแล้ว Honda Life Crossover ยังอยากชวนทุกคนออกเดินทางไปกับรถอเนกประสงค์ทั้งสามรุ่นของ Honda เพื่อให้การตามหาเส้นทางสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ หรือ V Route ของเราเป็นไปได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

Honda HR-V : รถยนต์รูปลักษณ์ชวนสะดุดตาที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสนุกๆ อย่างหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาราโนม่า (Panoramic Sunroof) และฟังก์ชั่นพิเศษอย่าง Honda LaneWatch เมื่อเราต้องการเปลี่ยนเลนระหว่างขับขี่ ฟังก์ชั่นนี้จะแสดงภาพมุมอับสายตาขึ้นที่จอภาพ ช่วยให้ขับขี่ในเมืองปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนและช่วยเบรกความเร็วต่ำ City Brake Active System (CTBA) ที่ช่วยป้องกันและลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุอีกด้วย

 


Honda BR-V
: รถยนต์ที่พร้อมตอบโจทย์ทั้งคนที่ชอบขับขี่ในเมือง และคนที่ชอบขับขี่ในเส้นทางแอดเวนเจอร์สุดท้าทาย มีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 5 ที่นั่ง พร้อมด้วยจุดเด่นของห้องโดยสารภายในที่กว้างขวาง แถมยังสามารถพับเบาะด้านหลังให้เราโดยสารสิ่งของได้อย่างจุใจ และเติมเต็มด้วยลุคสไตล์สปอร์ตด้วยชุดตกแต่งสเกิร์ตรอบคัน BR-V SPORT PACKAGE ที่เสริมดีไซน์ให้ดูโฉบเฉี่ยว

Honda CR-V : รถยนตร์ที่มาครบครันทุกการใช้งาน ด้วยดีไซน์ภายนอกที่หรูหรา และความเเรงของเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร i-DTEC DIESEL TURBO ที่สามารถลุยได้ในทุกกิจกรรมโดดเด่นด้วยดีไซน์ภายในรถที่สะดวกสบายด้วยเบาะนั่งที่สามารถพับเบาะตามการใช้งาน (Foldable Seats) ตอบโจทย์ตามที่คุณต้องการ อีกทั้งยังมี ระบบ Hands-free Power Tailgate ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี เพียงสอดเท้าที่ขอบฝากระโปรงใต้รถ ฝากระโปรงก็จะเปิดขึ้นอัตโนมัติทันที

หากใครอยากลองสัมผัสฟังก์ชั่นพิเศษของรถทั้งสามรุ่น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://testdrive.honda.co.th

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

ณัฐปคัลภ์ ทัศนวิริยกุล

นักเรียนฟิล์มที่มาฝึกงานช่างภาพ รักการถ่ายรูป ชอบกินของอร่อย และชอบใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนสนิท คนรัก