WAKE UP! – a day 216

ครั้งล่าสุดที่ผมได้เห็นต้นก้ามปูใต้ออฟฟิศเก่า a day ย่านเอกมัย คือเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว ตอนเอารถไปจอดในพื้นที่ของอาคาร เพื่อเดินไปกินข้าวในร้านอาหารเปิดใหม่ที่อยู่ไม่ไกลกัน

กิ่งก้านน้อยลงไปบ้าง แต่โดยรวมภาพที่เห็นไม่ต่างไปมากจากวันที่เราเจอกันครั้งสุดท้าย อาคารนี้ชื่อว่า เวิ้งโบราณ (เมื่อก่อนชื่อ เอกมัยช้อปปิ้งมอลล์) ในพื้นที่มีต้นไม้ใหญ่ 2 ต้นสูงไปจนถึงชั้น 3 อาคารส่วนหนึ่งสร้างล้อมต้นไม้ อดีตออฟฟิศของเราเป็นอาคารที่กั้นเป็นห้องอยู่ชั้นดาดฟ้า ตำแหน่งอยู่ใต้ต้นไม้พอดี เราเลยเหมือนได้ห้องทำงานที่มีร่มไม้เป็นหลังคา

เรามักจะนั่งคิดงานกันข้างนอก คิดอะไรไม่ออกก็มองบน ในขณะที่หัวคิด สายตาจะปะทะกับกระรอกที่วิ่งไต่กิ่งไม้สีน้ำตาล บางวันก็ได้เห็นแสงแดดบนใบไม้หลากรูปทรง สภาพแวดล้อมนี้หล่อหลอมตัวตนและวิธีคิดงานของผมในการทำงานที่ a day ในช่วงแรก ต่อให้ไม่ใช่คนรักต้นไม้ แต่การได้เห็นสีเขียวทุกวันย่อมมีผลต่อจิตใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


ต้นไม้อยู่กับเราตลอดเวลา แต่ไม่ตลอดไป เราย้ายที่ทำงานใหม่มาที่ซอยศูนย์วิจัย วันสุดท้ายของการทำงานที่เอกมัย พวกเราอาลัยอาวรณ์กันมาก แต่ไม่นานนักร่มไม้ของต้นก้ามปูก็กลายเป็นอดีต นานๆ ครั้งถึงจะมีคนพูดถึง ออฟฟิศเก่าถูกปรับปรุงเป็นร้านเหล้า บ่อยครั้งทีมงานก็ชอบไปกินดื่มที่นั่น เมื่อก่อนเราสังสรรค์หลังเลิกงานบ่อย การกลับไปกินดื่มในสถานที่เดิมแต่ต้องจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มเป็นความรู้สึกที่ประหลาดไม่น้อย

ผมชอบมองใบไม้ยามที่กระทบกับแสงแดด แม้จะเป็นต้นเดิมแต่ภาพที่เห็นไม่ซ้ำกันสักวัน ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิต เมื่อมีชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เราอาจจะสังเกตเห็นหรือไม่เห็นในบางวัน แต่มันไม่เคยหยุดเติบโต

อาทิตย์ที่แล้ว ผมเจอรุ่นน้องที่ลาออกไปเรียนต่อและกลับมาเที่ยวบ้านเกิดระยะสั้น จู่ๆ เธอก็บอกว่า ผมเป็นคนที่ยินดีและพร้อมปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงเยอะกว่าทุกคนที่เคยเจอ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถ้าให้วิเคราะห์สาเหตุ การมองต้นไม้บ่อยๆ อาจจะมีส่วน ทุกครั้งที่พบการเปลี่ยนแปลง ผมชอบคิดถึงช่วงเวลาที่นั่งมองต้นไม้ มันบอกผมว่าต่อให้เรายึดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้แน่นแค่ไหน โลกก็ยังต้องเคลื่อนไหวและเปลี่ยนผ่าน การมองความเปลี่ยนแปลงอย่างยอมรับและยินดีเท่าที่ทำได้เป็นสิ่งที่ผมชอบทำโดยไม่รู้ตัว

สิงหาคมเป็นเดือนครบรอบการก่อตั้งของ a day เรามักใช้วาระนี้ในการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างสิ่งใหม่

การทำ a day ฉบับ 216 มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งที่ผมอยากเล่าสู่กันฟัง เราตัดสินใจปรับราคานิตยสารจาก 80 บาท เป็น 100 บาท เราตั้งราคานี้ไว้มานานหลายปี ตอนนี้เราคิดว่าถึงเวลาอันเหมาะสมที่จะเปลี่ยนแปลงราคาเพื่อให้สอดคล้องกับสังคม    

ในเล่มเรายังปรับเลย์เอาต์โฉมใหม่ ขับเน้นภาพให้มีพลัง ส่งเสริมจังหวะการอ่านให้รื่นรมย์ยิ่งขึ้น ฝั่งออนไลน์ เว็บไซต์ adaymagazine.com ของเราก็ปรับเปลี่ยนหน้าตาเวอร์ชั่นใหม่ ปรับแบบอักษร เพิ่มพื้นที่และเซกชั่นใหม่ๆ ให้ทันยุคทันสมัย เข้ากับพฤติกรรมการรับสื่อที่นับวันจะยิ่งง่าย สะดวก และหลากหลายขึ้นทุกวัน

ชีวิตผมผ่านการเปลี่ยนแปลงมาระดับหนึ่ง บางวันก็คิดปลงๆ ว่าไม่มีสิ่งใดในโลกมั่นคง คนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วยทุกวันนี้ไม่มีใครอยู่กับเราไปตลอดชีวิต วันหนึ่งเราจะจากกัน เวลาคิดแบบนี้ เราจะไม่ได้รู้สึกแค่ปลง แต่มันแฝงมาด้วยความกลัวการจากลา ธรรมชาติของเรามักตื่นตระหนกเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เห็นกำลังจะเปลี่ยนแปลง หายไป ไม่เหมือนเดิม

ออฟฟิศใหม่ไม่มีร่มไม้ใหญ่เหนือหัว แต่น้องๆ ทีมงานก็ไปหาต้นไม้เล็กจิ๋วมาปลูกบริเวณระเบียง ทุกเย็นก็จะปีนออกไปรดน้ำ ด้วยขนาดที่เล็กทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของต้นชัดเจน หลายต้นออกดอก บางต้นเหี่ยวเฉาและหยุดนิ่ง ไม่นานนักจะมีคนเอาต้นใหม่ไปแทนที่ หมุนเวียนไปเรื่อยตามกาลเวลา

เราหยุดการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าจะใช้ชีวิตให้มีความสุขก็ต้องเตือนตัวเองไว้เสมอว่า การสูญสลายของบางสิ่งจะทำให้เกิดสิ่งใหม่เสมอ จงเรียนรู้จากมัน รักษาจิตใจให้แข็งแรง ถ้าเรามองการเปลี่ยนแปลงอย่างเข้าใจ จิตเราก็จะนิ่ง เหมือนกับหลักในการตัดแต่งต้นไม้อย่างยั่งยืน ต้องรู้จักการตัดกิ่งและลำต้น เพื่อเปิดทางให้กิ่งก้านสาขาใหม่ๆ ได้แตกยอด

การเปลี่ยนแปลงที่ดีจะทำให้เกิดการเติบโต

ช่วงชีวิตหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิต สังเกตต้นไม้ใหญ่แทบทุกวัน หล่อหลอมให้ผมเชื่ออย่างนั้น

AUTHOR