Call me Chihiro เป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากมังงะในชื่อ Chihiro-san ผลงานการวาดโดยอาจารย์ Hiroyuki Yasuda (Shomuni) ซึ่งออกฉายทางโรงภาพยนตร์ในประเทศญี่ปุ่นและลงสตรีมมิงทั่วโลกทาง Netfilx เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา
กำกับภาพยนตร์โดยผู้กำกับดาวรุ่ง ริกิยะ อิมาอิซูมิ (Rikiya Imaizumi) ที่ได้รับรางวัลบนเวที Tokyo International Film Festival จากภาพยนตร์เรื่อง By the Window (2022) เมื่อปีที่ผ่านมา โดยดึงนางเอกสาวหน้าหวานผู้มีรอยยิ้มที่ทำให้โลกสว่างไสว คาซูมิ อาริมูระ (Kasumi Arimura) มารับบท จิฮิโระ สาวปริศนาต่างเมืองที่พลัดถิ่นมาอาศัยในเมืองชายทะเลอันห่างไกล อดีตหญิงขายบริการทางเพศในร้านนวดผู้มีบาดแผลทางใจและร่างกายติดมาด้วย แต่ด้วยเนื้อแท้ที่มีจิตใจอันดีงามกลับยิ่งทำให้เธออยากเผื่อแผ่ความสุขและกอดทุกหัวใจที่กำลังสับสนหลงทางให้กับมามีชีวิตชีวาและเต้นได้ถูกจังหวะอีกครั้ง
ภาพยนตร์เปิดมาด้วยฉาก จิฮิโระ กับน้องแมวจรขนฟูในบริบทที่ชวนสงสัยแต่ก็อยากติดตามต่อไปว่าผู้หญิงคนนี้จะพาเราไปพบเจอกับอะไรบ้าง สาวร้านเบนโตะผู้โด่งดังมีแฟนคลับมารอคิวและหาโอกาสจะได้พูดคุยกับเธอที่ร้านขายข้าวกล่องแห่งหนึ่งในเมืองริมทะเล บทสนทนาที่ไม่ธรรมดาจึงเป็นการเฉลยตั้งแต่ต้นเลยว่าเธอเคยมีอาชีพผู้หญิงขายบริการมาก่อน แต่เนื้อเรื่องโดยรวมไม่ได้ชี้ไปทางฉากหวือหวา 18+ (ยกเว้นแค่ฉากเดียวที่เข้าข่ายต้องชมกันเองว่าจะมาเมื่อไหร่และรูปแบบไหน)
จิฮิโระ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นชื่อในวงการที่ตัวละครเลือกใช้เสมือนเป็นการระลึกถึงมนุษย์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตในวัยเด็กของเธอ โอบอุ้มเธอขึ้นมาในวันอันโดดเดี่ยว ซึ่งเมื่อเธอเติบโตขึ้นมาจนถึงวันที่สามารถหยิบยื่นความอบอุ่นนี้ให้คนอื่น ก็พบว่าเมื่อใดที่พบกับคนแปลกหน้าที่กำลังหลงทางต้องการความช่วยเหลือเธอก็ไม่ลังเลที่จะแบ่งปันความสุขและส่งรอยยิ้มจริงใจนี้ให้กลับไป
เบื้องหลังอันเป็นปริศนาของ จิฮิโระ ได้ค่อยๆ เผยขึ้นมาในฉากต่างๆ เพื่อคลี่คลายความสงสัยที่มาที่ไปของเธอได้บ้าง แต่ผู้กำกับก็เลือกที่จะเก็บซ่อนบาดแผลในอดีตไว้ไม่เล่าอย่างตรงไปตรงมา ยิ่งชวนให้ผู้ชมจินตนาการต่อกันเองว่ามวลความเศร้าในตัวเธอนี้ได้มาอย่างไร ยิ่งอยากค้นหาชีวิตของผู้หญิงคนนี้ไปจนจบ เพราะถึงแม้ว่าเธอจะมอบรอยยิ้มและช่วยเหลือคนรอบข้างให้ชีวิตประจำวันของพวกเขาเปลี่ยนแปลงและมีความสุขขึ้น แต่ก็สัมผัสได้ถึงความว่างเปล่าและเปลี่ยวเหงาในจิตใจของเธอที่สายตาไม่อาจเก็บซ่อนไว้
ฉากเรียบง่ายในเมืองริมทะเลกับการใช้ภาพนิ่งแช่ค้างไว้ ให้ผู้ชมซึมซับบรรยากาศผู้คนและการเรียนรู้ตัวละครในเรื่องผ่านบทสนทนา ทำให้เรื่องนี้กินเวลาไปกว่าสองชั่วโมงซึ่งคนที่ไม่คุ้นเคยกับการเล่าเรื่องเนิบๆ แบบนี้ของญี่ปุ่นก็อาจถอดใจพับจอล้มตัวนอนไปซะก่อน แต่ถ้าเปิดใจปล่อยอารมณ์ไปกับการเก็บรายละเอียดต่างๆ ที่สอดแทรกเข้ามาจะทำให้เห็นภาพชีวิตผู้คนรอบตัวที่เราเองอาจมองข้ามไปในชีวิตประจำวัน
คาซูมิ อาริมูระ ตัวละครหลักของเรื่องเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดเราด้วยคาแรกเตอร์สาวสวยรวยเสน่ห์แต่ก็ซ่อนเรื่องราวความผิดหวังเศร้าใจที่ไม่อาจเล่าเป็นคำพูดแต่สัมผัสได้ในทุกฉากที่เธอปรากฏตัว ด้วยลักษณะนิสัยที่แปลกแตกต่าง ทำให้ความคิดความอ่านของเธอไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไป ความขบถ แข็งกร้าวในตัวถูกนำมาใช้ในจังหวะเวลาที่เหมาะสม นิยามความเป็นผู้หญิงที่เธอปฏิเสธไม่อยากถูกตีกรอบยิ่งทำให้เธอเป็นคนลึกลับและยากที่จะเข้าใจ บทบาท จิฮิโระ ในเรื่องจึงแหวกความเชื่อที่มีต่อผู้หญิงทั้งการเป็นแม่บ้านในอุดมคติ การใช้ชีวิตตัวคนเดียวตัดขาดครอบครัว การเลือกอาชีพที่สังคมยังไม่ยอมรับ หรือความคิดเรื่องความสัมพันธ์และเซ็กซ์ที่ไม่ยึดติดรูปแบบหรือขั้นตอน ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่คนในสังคมส่วนใหญ่เดินตามกัน นั่นจึงทำให้เธอเข้าอกเข้าใจความเป็นคนนอกของคนแปลกหน้าที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ตัดสินว่าคนนี้เป็นใคร มาจากไหน เพียงแค่มองตาและเชื่อในสัญชาตญาณมนุษย์ของกันและกัน
พลังบวกของ จิฮิโระ แผ่ออร่าออกมาทำให้คนรอบตัวที่เห็นเธอรู้สึกสบายใจ สงบนิ่งลงเพียงแค่นั่งอยู่ข้างกัน ทุกตัวละครจึงสามารถเปิดใจกับเธอในแบบที่ไม่เคยทำแม้กับคนในครอบครัว เช่น คาแรกเตอร์สาวมัธยม โอคาริ ที่มาจากครอบครัวที่สมบูรณ์แบบในอุดมคติของใครหลายคน พ่อแม่ที่พรั่งพร้อมในด้านฐานะการเงิน เวลา แต่ความสมบูรณ์แบบนี้ก็นำมาซึ่งความกดดันและน่าอึดอัดใจที่เล่าผ่านฉากการกินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน บนโต๊ะเต็มไปด้วยจานอาหารหน้าตาสวยงามเหมือนนั่งรับประทานในร้านหรูเป็นเพราะแม่ของ โอคาริ เข้าอบรมเป็นเชฟมานั่นเอง ถึงอย่างนั้นผู้ชมกลับไม่รู้สึกถึงความเอร็ดอร่อยแม้อาหารจะอุดมด้วยโภชนาการครบครับและละลานตาแค่ไหนก็ตาม
ต่างกับมื้ออาหารง่ายๆ บ้านๆ ของครอบครัวเด็กดื้อ มาโคโตะ เด็กชายปากแจ๋วตัวป่วนของเรื่องที่รักเมนูผัดหมี่เมนูเด็ดเมนูเดียวของแม่เขาอย่างสุดหัวใจ เมนูที่แม่ของเขาทำไปบ่นไปกับบ้านรกๆ ข้าวของกระจัดกระจาย แต่ก็รับรู้ได้ถึงความเอาใจใส่ที่แม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งพยายามดูแลลูกชายคนเดียวด้วยตัวเองอย่างเต็มความสามารถ นั่นเลยทำให้ อาโคริ ที่ได้มาร่วมโต๊ะอาหารโดยไม่ตั้งใจบ่อน้ำตาแตกโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
จุดสังเกตได้หนึ่งอย่างดูเหมือนว่าผู้กำกับตั้งใจวางฉากกินอาหารอยู่ในทุกช่วงของภาพยนตร์ อย่างเช่น
ฉากกินซูชิในมุมมืดที่ทำให้ตัวเอกของเรื่องพบกับ จิฮิโระ ที่เป็นที่มาของชื่อและเส้นทางอาชีพในอนาคตตั้งแต่ยังเด็ก ข้าวปั้นหน้าตาไม่สะสวยแต่ก็เป็นมื้ออร่อยที่ตั้งใจทำด้วยฝีมือตัวเองทั้งยังมีคนมาร่วมแชร์ทำให้อาหารมื้อธรรมดากลายเป็นมื้อพิเศษที่อยู่ในความทรงจำ
“ว่ากันว่าอาหารอร่อยขึ้นเมื่อเรากินกับคนอื่น แต่มันจะไม่อร่อยเมื่อกินกับคนบางคน และอาหารอร่อย ถึงจะกินคนเดียวก็ยังอร่อย” ใจความสำคัญของเรื่องที่ผู้กำกับเล่าผ่านฉากต่างๆ ให้เราเห็นว่ามื้ออาหารนั้นนอกจากกินเพื่อให้ท้องอิ่มยังเปิดเผยธาตุแท้ ตัวตน ของแต่ละคนออกมาผ่านแววตาและบทสนทนาโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว
ตึกร้างที่เป็นหนึ่งในโลเคชันหลักของเรื่องเสมือนเป็นขุมทรัพย์ที่คนทั่วไปมองข้ามแต่มันรวมคนที่พูดภาษาเดียวกัน ชอบการ์ตูนเรื่องเดียวกัน และเป็นคนที่อยากหาความสงบจากโลกภายนอกซึ่งถูกกีดกันจากคนส่วนใหญ่ให้มาสร้างพื้นที่ที่เป็นดาวที่มีความอุ่นใจแห่งนี้ร่วมกัน
ตัวละครแวดล้อมเป็นตัวแทนความหลากหลายของคนในสังคม ทั้งเด็กประถม วัยรุ่น คนทำงาน และคนชรา ที่มีเรื่องราวเหตุการณ์ที่ต้องเผชิญแตกต่างกันตามแต่ละช่วงวัย แต่ จิฮิโระ ก็ได้ร้อยคนเหล่านี้ให้โคจรมาเจอกันได้อย่างน่าประทับใจ ถึงแม้หัวใจของเธอยังไม่ถูกเติมเต็มแต่ชีวิตคนรอบข้างได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่เธอเดินเข้ามา Call me Chihiro ทำให้เห็นว่าคนธรรมดาอย่างเราๆ ก็สามารถแบ่งปัน แบ่งเบาความทุกข์หนักอึ้งที่มนุษย์รอบตัวแบกอยู่ได้เพียงแค่ใส่ใจรายละเอียด สังเกตชีวิตประจำวันของเราและผู้อื่นมากขึ้นอีกนิดเพื่อทำให้โลกนี้ไม่โหดร้ายโดดเดี่ยวอย่างที่เป็นอยู่
รับชมตัวอย่างภาพยนตร์
สำหรับผู้ที่อยากรู้ว่าอาหารมื้ออร่อยที่ตัวละครในเรื่องตามหานี้จะมีหน้าตาอย่างไร รับชมได้ทาง Netflix
https://www.netflix.com/watch/81486812?source=35
ที่มา
https://comicvine.gamespot.com/chihirosan/4050-96855/
https://www.rottentomatoes.com/m/call_me_chihiro
https://entertainment.trueid.net/detail/j2q6M6we9XjK
https://www.beartai.com/lifestyle/movie-series-review/1218227