พูดถึงเมืองโกเบ หลายคนน่าจะเริ่มน้ำลายสอด้วยความอยากลิ้มรสเนื้อวัวนุ่มลิ้นแสนละมุนละลายในปากรสเลอค่า แต่ก่อนจะพากันไปสร้างภาระให้ร่างกายด้วยการย่อยเนื้อสัตว์ใหญ่ราคาสูงลิบ ลองแวะมาเคลือบกระเพาะด้วยกาแฟหอมกรุ่นจากคาเฟ่กรุบกริบย่านซังโนะมิยะ (Sannomiya) กันดีกว่า (จริงๆ แล้วค่อนไปทางย่านโมะโตะมะชิ (Motomachi) มากกว่า แต่เอาน่า เดินกันหน่อย) ร้านกาแฟแถวนี้นอกจากจะอร่อย ถ่ายรูปสวย ราคายังน่ารักมากๆ ด้วยนะ เฉลี่ยอยู่ที่ 300-400 เยนเอง ถูกกว่าโตเกียวหลักร้อยเยนเลย!
ตอนนี้เราคัดมาให้ 4 ร้าน 4 สไตล์ที่เหมาะแก่การแวะไปฮอปปิ้งให้พอหอบอ่อนๆ แล้วค่อยกลับมาล้มวัวกัน!
01 Ravo Bake Coffee
นี่คือร้านเรียบเก๋ที่ถ่ายรูปสวยทุกองศา คอยส่งกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นมาจากซอยเล็กๆ ระหว่างทางเดินจากสถานีซังโนะมิยะไปโมะโตะมะชิ ในความมูจิของการตกแต่งก็แอบมีความสดใสคัลเลอร์ฟูลซ่อนอยู่ในโลโก้และเมนูขนมหวาน Malasada ที่พี่บาริสต้าพรีเซนต์ว่าเป็นขนมของฮาวายซึ่งเจ้าของร้านโปรดปรานจนนำกลับมาขาย เราชิมแล้วบอกเลยว่าอร่อยเข้ากับกาแฟมากๆ (แถมน่ารักด้วย! หมายถึงขนม…และบาริสต้า) ความสนุกอีกอย่างคือเมนูพิเศษแต่ละช่วงที่แสนจะเข้ากับสภาพอากาศและจิตใจนักจิบในช่วงนั้น
Ravo Bake Coffee เริ่มกิจการมาตั้งแต่ตุลาคม 2015 แต่สาขานี้เพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนธันวาคม 2016 เหมาะมากสำหรับสายชิลล์ที่พร้อมจะจิบแล้วจากไป เพราะเป็นร้าน coffee stand ที่มีม้านั่งแค่ตัวเดียวข้างร้านสำหรับนั่งรอกาแฟและขนมชั่วคราว แต่หนุ่มๆ อาจจะขัดใจนิดหน่อย เพราะอดนั่งแช่เหล่สาวญี่ปุ่นที่แวะเวียนกันมาเนืองแน่นมากๆ
address: 3-6-8-2 Kitanagasadori, Chuo-ku, Kobe, Hyogo
hour: เปิดทุกวัน 10:00 – 19:00 น.
IG: @ravo_bake_coffee_official
02 Lima Coffee
ลิมา มาจากภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า 5 สื่อถึงรส 5 อย่างของกาแฟ ร้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆ แห่งนี้ใช้พื้นที่ครึ่งหนึ่งคั่วกาแฟจะๆ ในร้าน ส่งกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไป แน่นอนว่าที่นี่มีกาแฟให้เลือกหลายชนิดมาก ทั้งแบบเมล็ดและ drip bag คอกาแฟสายสนุกน่าจะตื่นเต้นยินดีที่ได้ลองหลายๆ แบบ แถมแตกต่างจากร้าน specialty coffee อื่นๆ ในเมืองด้วยการเลือกชงแบบไซฟอนเป็นหลัก ซึ่งถือว่าแรร์ยิ่ง ในโตเกียวยังหาร้านกรุบกริบดื่มยากเลย เจ้าของร้านให้เหตุผลว่า เธอยังดริปไม่เก่ง วิธีนี้ง่ายกว่าการดริปที่รสจะขึ้นอยู่กับคนชง แต่ไซฟอนนี่ใครทำรสก็นิ่ง อร่อยเท่ากัน
ที่นี่นำทีมโดยสาวญี่ปุ่นสุดเท่ผู้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาพักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจกลับมาญี่ปุ่นและเปิดร้านกาแฟ เจ๊อาจจะดูเงียบขรึมแต่จริงๆ แล้วเป็นมิตรมากนะ ถ้าสับสนไม่รู้จะกินอะไรดี ลองปรึกษาเจ๊ได้ แพ็คเกจและโลโก้ต่างๆ ออกแบบโดยดีไซเนอร์ท้องถิ่น เรียกได้ว่ามีความโกเบในทุกกระเบียดนิ้ว
address: 3 Chome-8-1, Motomachidori, Chuo Ward, Kobe, Hyogo
hour: 09:00 – 18:00 น. ปิดวันพุธ
limacoffee.jp
03 W / O Stand
W/O stand สาขาโกเบเพิ่งเปิดใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา (และสาขาโตเกียวเหมือนจะเพิ่งเปิดเมื่อเดือนสิงหานี้เอง) โดยเน้นคอนเซ็ปต์คาเฟ่สายโมเดิร์น ขาวๆ เรียบๆ นีออนหน่อยๆ เราประทับใจโลโก้คุณลุงของร้านมาก เพราะตอนแรกนึกว่าลุงเจ้าของห้าวหาญ กล้าใช้ความลุงขายความเท่ แต่พอเช็กกับน้องบาริสต้าสาวคนสวย นางหน้าเหวอรีบบอก “นี่มันชาวอเมริกัน นีล …(ซัมติง ฟังไม่ทัน) ต่างหากค่ะ!”
ชั้น 1 ขายกาแฟ ชั้น 2 ขายเสื้อผ้ามือสองชิคๆ คูลๆ แต่ถ้าเหนื่อยจะช้อปลงมาฮอปร้านกาแฟต่อดีกว่า
address: 3 Chome-8-6 Sannomiyacho, Chuo Ward, Kobe, Hyogo
hour: 11:00 – 19:00 น.
IG: @with_out_stand
04 The Mark Coffee Supply
นี่คือหนึ่งในร้านกาแฟที่เกิดมาเพื่อถูกถ่ายรูป
ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้จะดูถูกกาแฟของร้าน แต่มันโดดเด่นสู้แสงสีชมพูแปร๋นและไฟนีออนอันร้อนแรงภายในร้านไม่ได้จริงๆ บรรยากาศน่าจะคล้ายคาเฟ่เกาหลีหน่อยๆ แต่ที่นั่งมีน้อย เวียนกันถ่ายรูปตามจุดสำคัญแล้วควรรีบสลายตัวไปจิบกาแฟต่อด้านนอก คนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟแต่ถูกเพื่อนลากมาน่าจะถูกใจ เพราะมีเมนูผลไม้ปั่นให้เลือกเพียบ (เขาเขียนว่า tsumoothie นะ ไม่ต้องงง)
จริงๆ แล้วที่นี่คือสาขา 2 The Mark Coffee Supply หอบร่างมาไกลจากเมืองเซ็นได จังหวัดมิยะงิ ชื่อ Mark หมายถึง จุดที่ทุกคนมารวมตัวกัน อยากให้ร้านนี้เป็นที่ที่ทุกคน mark ไว้ในชีวิตประจำวันซึ่งเราว่านางสมหวังดังใจหมายแล้ว เพราะสาขาโกเบเพิ่งเปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเอง แต่กระแสในโซเชียลร้อนแรงแสบตาไม่แพ้นีออนในร้าน วันธรรมดาตอนบ่ายๆ คนยังแห่มาถ่ายรูป เอ๊ย! กินกาแฟกันเพียบ (แหะ คนเขียนก็ตาม IG มาเช่นกัน)
address: 2 Chome-3 Motomachidori, Chuo Ward, Kobe, Hyogo
hour: 11:00 – 19:00 น. เปิดทุกวัน
themark.jp
ขอให้ Happy Hopping กันถ้วนหน้า!
