WALTZ เต้นรำในวอดวาย คืองานรวมเรื่องสั้นชิ้นแรกของ บริษฎ์ พงศ์วัชร์ ที่ออกกับสำนักพิมพ์ P.S. เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของชาย-หญิงสุดร้อนรุ่มและอึดอัดจนอ่านแล้วต้องหายใจช้าๆ ไม่ให้ใจเต้นผิดจังหวะไป
หากกล่าวว่าความระอุอกที่อัดอั้นด้วยอารมณ์อันลึกซึ้งคือเอกลักษณ์ของบริษฎ์ก็คงไม่ผิดนัก เพราะผลงานชิ้นที่สองนาม Stay, Love, Please Stay นิยายแชตขนาดสั้นที่ทำร่วมกับ a day ในโปรเจกต์ AFTER SEX CONVERSATION ของเขาก็ยังคงไว้ลายนั้นอยู่ไม่จางหาย

Stay, Love, Please Stay คือบทสนทนาระหว่างชาย-หญิงคู่หนึ่งซึ่งพูดถึงความ ‘ไม่แข็ง’ ของอวัยวะเพศ สภาวะที่ฝ่ายหนึ่งมีเซ็กซ์กับคนอื่นไม่ได้นอกจากคนรักเก่า และความอัดอั้นจากการสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งบริษฎ์เรียกสิ่งเหล่านี้ว่ากระบวนการพยายามหาทางออกของมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องอยู่กับปัจจุบัน และเป็นสิ่งสะท้อนสังคมไทยที่มีสายธารปิตาธิปไตยอันเข้มแข็งตีกรอบไว้
ความระอุที่ว่านั้นเป็นยังไง ทำไมบริษฎ์ต้องเล่าถึงประเด็นดังกล่าว ชวนไปคุยถึงเบื้องหลังงานเขียนนิยายแชตครั้งแรกที่เขาบอกว่าไม่มีส่วนไหนง่ายสักนิดกัน
คำแนะนำในการอ่าน
- ถ้าอ่านผ่านโทรศัพท์มือถือ แนะนำให้อ่านในแอพพลิเคชั่น readAwrite
- เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุมากกว่า 18 ปี
- อ่านเรื่องสั้นก่อนอ่านบทสัมภาษณ์ จะได้อรรถรสมากขึ้นนะ
หลังจากได้บรีฟโปรเจกต์ AFTER SEX CONVERSATION ไป คุณรู้สึกยังไงบ้าง
โอ้โห เราสูดหายใจแรงมากว่าต้องเขียนยังไงวะเนี่ย นิยายแชตคืออะไร เพราะเราไม่เคยรู้จักนิยายแชตมาก่อน แล้วเราเป็นคนไม่ชิตแชตและไม่ชอบคุยในไลน์ เวลาตอบเพื่อนก็ตอบแค่ ‘ขอบคุณ’ ‘อืม’ ‘โอเค’ ถ้าเพื่อนพิมพ์อะไรมายาวๆ เราจะโทรไปคุยเลย
จำได้ว่าคืนนั้นนั่งไถนิยายแชตนานมาก ดูว่าจะทำยังไงให้บทสนทนาในเรื่องเกิดภาพในหัวคนอ่านโดยที่เราไม่บรรยายฉาก เพราะปกติเราต้องบรรยายแล้วว่าแสงแดดส่องมาอย่างนี้ ที่บริเวณนี้มีเสียงแบบนี้ คนคนนี้หายใจแบบนี้ หรือเราจูบใครตรงไหน แต่เราทำสิ่งเหล่านี้ในนิยายแชตไม่ได้เลย

ฟังดูแล้วน่าจะเป็นการทำงานที่ยากสำหรับคุณ
ยาก ยากมาก ไม่มีส่วนไหนที่ง่ายเลย เราเลยเขียนเนื้อเรื่องทั้งหมดในรูปแบบเรื่องสั้นก่อนแล้วค่อยถอดบทสนทนาในนั้นมาเขียนเป็นนิยายแชต เพราะเราไม่สามารถเขียนบทสนทนาขึ้นมาเปล่าๆ โดยไม่มีฉากได้ แต่พอทำไปเรื่อยๆ ก็โคตรสนุกและท้าทายวิธีการทำงานของตัวเอง จนคิดว่าจะเอาวิธีการเขียนบทสนทนาแบบนิยายแชตไปแก้ในงานอีกชิ้นที่กำลังทำอยู่
ความสนุกที่ว่าคืออะไร
มันคือน้ำเสียงที่เหมือนเราได้ยินคนพูดจริงๆ ซึ่งเรื่องสั้นและนวนิยายทั่วไปให้ไม่ได้ ทั้งที่มันเป็นคำพูดที่เรียบง่ายมากแต่เรากลับรู้สึกว่านี่คือคนกำลังพูดกันอยู่ เราเลยรีไรต์เรื่องนี้ประมาณ 4 ครั้ง เพราะตอนแรกมันโคตรนิยายเลย ไม่มีคำผิด ไม่มีเลขห้า ไม่มีคำห้วนๆ เพราะเราติดวิธีการเขียนเรื่องสั้นแบบมีขนบที่เราไม่กล้าละเมิด แต่ต่อจากนี้ก็คงไม่กลัวแล้ว (หัวเราะ)

คุณได้ไอเดียอะไรมาบ้างหลังจากศึกษาแพลตฟอร์มนิยายแชตจนเข้าใจแล้ว
เรามาดูว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีซึ่งก็เป็นเรื่องยากอีก เพราะส่วนตัวเราไม่ค่อยสนทนาเท่าไหร่ พอเสร็จกิจเราจะเปิดเพลงฟังหรือไม่ก็ดื่มต่อ เมื่อต้องมาเขียนจริงๆ เลยคิดถึงเช้าวันหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาแล้วหางตาไม่เห็นคนรักนอนอยู่ ทั้งที่เขาแค่ม้วนตัวในผ้านวมแล้วลงไปนอนข้างล่างเพราะเป็นคนนอนดิ้น (หัวเราะ) แต่เราดันรู้สึกโหวงจนดาวน์ไปทั้งเช้าซึ่งไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ถามตัวเองว่าทำไมรู้สึกแบบนี้ แล้วถ้าวันหนึ่งเขาตายไปจริงๆ ล่ะ เราจะทำยังไง
ความตายกับเซ็กซ์มันเกี่ยวข้องกันได้ยังไง
ถ้าเราขยายความคำว่า ‘เซ็กซ์’ มันอาจไม่ใช่แค่การที่คนมีเพศสัมพันธ์กัน แต่มันคือความเป็นมนุษย์ที่แตกต่างจากสปีชีส์อื่นในแง่ที่มันมีระยะห่าง การปฏิสัมพันธ์ การค่อยๆ เข้าค่อยๆ ออกจากกัน มันมีอารมณ์ ความรู้สึก การสื่อสาร เซ็กซ์จึงสื่อถึงความเป็นมนุษย์ และความตายก็ผูกกับความเป็นมนุษย์อีกทีหนึ่ง ดังนั้นความตายมันก็คือ conversation after sex ได้เหมือนกัน
เราเลยลองรีเสิร์ชเกี่ยวกับความตายและความสัมพันธ์ของมนุษย์ในอินเทอร์เน็ตแล้วเจอข้อมูลเกี่ยวกับ digital afterlife industry ที่บริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งในโลกเก็บรวบรวมบทสนทนาทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ ของคนที่เสียชีวิตมาแปลงเป็นแชตบอต
กรณีศึกษาคือวิศวกรคอมพิวเตอร์คนหนึ่งรวมบทสนทนาระหว่างเขา เพื่อนที่เสียชีวิตไป และเพื่อนคนอื่นมาใส่ในระบบ AI เพื่อให้เขายังคุยกับเพื่อนได้ ซึ่งหลายคนก็ตั้งคำถามนะว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำสิ่งนี้คืออะไร ทำไมต้องทำให้คนที่เสียชีวิตแล้วกลับมามีตัวตนอีกครั้ง เราจึงหยิบประเด็นนี้มาลองเขียนดู


แล้วคุณมีความเห็นยังไงเรื่องเทคโนโลยีที่สามารถสื่อสารแทนมนุษย์ได้
เราว่าวันหนึ่งเราก็หนีไม่พ้นเทคโนโลยีหรอก เทคโนโลยีมันหมุนไปเร็วมาก และจริงๆ แล้วแชตบอตมันถูกพัฒนามาโดยตลอด วันหนึ่งเราอาจจะสื่อสารหรือมีความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับโรบอต และโรบอตก็อาจมีความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์เรื่อง Her ก็ได้ ซึ่งเราก็คงไม่ได้อายที่จะเรียกเขาว่ามนุษย์ เพื่อน หรือคนรัก
เพราะมนุษย์ไม่ใช่สิ่งสูงส่งในห่วงโซ่อาหาร เราจึงไม่ได้หวงแหนคำว่ามนุษย์ไว้ ถ้ามันทำเป็นแชตบอตได้เรายังอยากทำด้วยซ้ำ เพราะเราก็ไม่ได้อยากให้คนรักหายไปจากโลกใบนี้เสียทีเดียว
คำว่า “ทำไม่ได้” ของตัวเอกจึงไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ยอมรับแชตบอตใช่ไหม
เขาไม่ได้ปฏิเสธแชตบอต แต่คำว่า ‘ทำไม่ได้’ มันคือการที่เขาไปมีเซ็กซ์กับคนอื่นไม่ได้เพราะยังจัดการกับการสูญเสียคนรักและสภาวะ after sex กับคนรักเก่าที่ผูกพันมากๆ ไม่ได้ เมื่อต้องมีเซ็กซ์กับคนอื่นจึงยังมีภาพคนเก่าตีคู่อยู่
จริงๆ ตอนแรกเราพยายามเขียนให้ตัวเอกยอมรับความสูญเสียได้โดยไม่ต้องใช้แชตบอตแล้วด้วยซ้ำ แต่เราทำไม่ได้เพราะเขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่สามารถตัดขาดจากอะไรได้อย่างแท้จริง มันไม่เหมือนการเอายางลบไปลบรอยดินสอหรือเผากระดาษทิ้งแล้วรอยมันจะหายไป

แล้วถ้าจินตนาการว่าคุณเป็นตัวเอก คุณจะจัดการกับความรู้สึกสูญเสียได้ไหม
เราชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นตัวเอกหรืออยู่ในสภาวะเดียวกับตัวเอก เรื่องนี้จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งในการหาคำตอบว่าเราคิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ และเราจะจัดการกับความรู้สึกสูญเสียของตัวเองยังไง ดังนั้นการที่ตัวเอกจัดการกับความสูญเสียไม่ได้และแยกเซ็กซ์กับรักไม่ได้ก็เพราะเราทำไม่ได้
กับเรื่องความสูญเสียเราคงอยู่กับมันไปอย่างนั้น ยอมรับความเศร้าความเจ็บปวดจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตอนแรกๆ ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะเข้มข้น แต่มันจะเบาบางลงตามวันเวลาและการเติบโตทางใจที่ช่วยให้เราเข้าใจเรื่องการจากลามากขึ้น มันคือกระบวนการที่เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งต้องพยายามหาทางเพื่ออยู่กับปัจจุบัน
กับเรื่องเซ็กซ์เราไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไง แต่เราไม่สามารถแยกรักกับเซ็กซ์ออกจากกันได้ เพราะเรามองว่าเซ็กซ์มันคือความสัมพันธ์ที่มีทั้งการสัมผัสซึ่งคือการพูดคุยและทำความเข้าใจกัน และการไม่สัมผัสที่คือการให้ใครสักคนแตะต้องตัวเราและเข้ามาในเขตแดนของความรู้สึกปลอดภัย เราอยากให้ทั้งเราและคนที่เรามีเซ็กซ์ด้วยรู้สึกปลอดภัย เราเลยมีเซ็กซ์กับคนที่เราไม่รักไม่ได้

คุณคาดหวังให้คนอ่านได้อะไรจากเรื่องนี้
เราอยากมีตัวละครผู้ชายที่พูดถึงความรู้สึกละเอียดอ่อนว่าวันนี้เราเหนื่อยมาก รู้สึกแย่ เครียดกับงาน หรือยังจัดการกับการสูญเสียภรรยาเก่าไม่ได้เลยมีเซ็กซ์ไม่ได้แบบที่ตัวเอกเป็น เพราะเราว่าเซ็กซ์มันไม่ใช่อารมณ์วูบวาบอย่างเดียวแต่มันละเอียดอ่อนกว่านั้น มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ความรู้สึก และการสื่อสาร
บทสนทนาจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในความสัมพันธ์และเซ็กซ์ของทุกเพศ แต่ผู้ชายกลับพูดเรื่องนี้น้อยมาก ทั้งที่จริงแล้วมันไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าฉันแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องบอกว่ากูเก๋าเรื่องเซ็กซ์มากเลย การที่คุณมีเซ็กซ์ไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณสูญเสียความเป็นชายที่สังคมตีกรอบไว้
คุณกำลังจะบอกว่ามันเกี่ยวกับปิตาธิปไตย
ใช่ มันคือปิตาธิปไตยที่ไม่ได้กดทับเพียงเพศหญิงและเพศอื่นๆ แต่มันกดทับผู้ชายด้วย ผู้ชายหลายคนเข้าใจว่าเวลาเพศหญิงและเพศหลากหลายพูดถึงปิตาธิปไตยคือเขากำลังด่าผู้ชาย แต่มันไม่ใช่แบบนั้น คุณต้องคิดด้วยว่าคุณก็กำลังถูกตีกรอบเหมือนกัน

มีประสบการณ์ส่วนตัวอะไรไหมที่ทำให้อยากพูดถึงประเด็นนี้
เราโตมาในบ้านที่พ่อมีความเป็นใหญ่ เขาเติบโตมากับสายธารปิตาธิปไตยที่มีมานานมาก เราจึงถูกคาดหวังว่าต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องไห้ ต้องประสบความสำเร็จ ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว ลุคแบบเราต้องเป็นทหารเพราะพ่อเราก็เป็นตำรวจ แต่เราไม่ได้อยากอยู่ในสังคมแบบนั้น เราชอบเล่นดนตรี ชอบงานศิลปะ ชอบอ่านหนังสือ แต่สุดท้ายเราก็ต้องเรียนวิศวฯ เพราะพ่อแม่ขอ
พอเข้าไปเรียนก็เจอกับสังคมชายเป็นใหญ่ที่เข้มแข็งมากๆ เวลาพิจารณาตำแหน่งหัวหน้างานหรือโปรเจกต์ต่างๆ ก็เลือกพิจารณาผู้ชายก่อน ในวงสนทนาก็มีแต่การอวดอ้างเรื่องเซ็กซ์ จู๋แม่งต้องแข็ง ต้องพร้อมใช้งานตลอด เซ็กซ์ต้องเพอร์เฟกต์ ต้องได้รับคำชมว่าผู้ชายคนนี้แม่งเอาเก่งว่ะ
เราว่าสิ่งนี้มันแย่มาก เพราะหลายครั้งเลยนะที่เซ็กซ์มันเฟลเพราะเราเองที่เหนื่อยจากการทำงาน สมองเราคิดหลายเรื่อง พอมันเผลอคิดนิดเดียวจังหวะนั้นเซ็กซ์เราจบเลย แต่ดีว่าอีกฝ่ายเขาเข้าใจและบอกว่าไม่เป็นอะไรเลย ดีเสียอีกที่สื่อสารกัน เราเลยเข้าใจว่าการที่เซ็กซ์ล้มเหลวไม่ได้แปลว่าเราจะตายนี่หว่า มันคือความเป็นมนุษย์ในตัวเราด้วยซ้ำ และสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ทุกรูปแบบคือการสื่อสารกัน คุยกับพาร์ตเนอร์ว่าต้องการอะไร แบบไหน หรือรู้สึกยังไง
เพราะเซ็กซ์ไม่ใช่เรื่องการเอาชนะ แต่เป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆ ไปด้วยกันจนสำเร็จ

