“มีเวลาเมื่อไร จะไปเที่ยว”
“ไม่รู้ว่าจะมีเวลาว่างมั้ย แต่อยากคั่วกาแฟเอง”
“โกโก้ไทยฮิตจัง วันไหนมีเวลาว่างจะไปชิม”
ท่ามกลางจังหวะชีวิตที่วุ่นวายของเมืองใหญ่ เราจะมี ‘เวลาว่าง’ จริงๆ เมื่อไร?
หลังสอบเสร็จ ตอนปิดเทอม เมื่อส่งงานแล้ว หรือระหว่างลาพักร้อน แต่พอ ‘เวลาว่าง’ มาถึงก็เหนื่อยจนไม่ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจ
วันนี้มีแบรนด์ไทยหัวใจรักธรรมชาติที่ชวนทุกคนมาใช้ ‘เวลาว่าง’ ในเวิร์กชอปเติมเต็มแพสชันกัน
‘ว่างเมื่อไร ค่อยไปนะ’
ประโยคนี้เป็นเหมือนคำขวัญประจำแบรนด์ ‘Waang pi’ หรือ ‘ว่างไป’ ที่ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว
ด้วยความเข้าใจในชีวิตที่เร่งรีบของคนเมืองทำให้ ‘Waang pi’ จัดเวิร์กชอปตอบโจทย์สิ่งที่คนในเมืองใหญ่ต้องการ
‘การปลีกตัวออกจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองใหญ่’ และ ‘การใช้เวลาว่างเติมเต็มแพสชัน’
‘Waang pi’ ชวนทุกคนให้เดินห่างจากเมืองใหญ่มาพักผ่อนหย่อนใจไม่เกิน 3 วันในอากาศเย็นสบายของอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แล้วเรียนรู้วิธีการนำธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในเวิร์กชอปที่มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น บ่มผลโกโก้สดเป็นช็อกโกแลต เก็บน้ำผึ้งป่าด้วยวิถีพื้นบ้าน คั่วเมล็ดกาแฟแบบโฮมเมด ทำน้ำเชื่อมจากฝักวานิลลาสด รวมทั้งเวิร์กชอปขั้นเทพอย่างการทำเต้าหู้และหมักซีอิ้วเองที่บ้าน
แต่ละเวิร์กชอปเป็นของอร่อยที่ทำเองไม่ยาก แค่เข้าใจวิธีการเบื้องต้น แล้วก็นำกลับมาทำเองได้
Limited Edition: ของพื้นถิ่นตามฤดูกาล
‘ของที่มีจำนวนจำกัด มักเป็นที่ต้องการของตลาด’
แนวคิดทางมาร์เกตติงดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ในการออกสินค้าใหม่ของหลายแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มความน่าสนใจด้วยสินค้าใหม่ อย่างสินค้าแฟชั่น
แล้วแบรนด์ที่เดินช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไปอย่าง ‘Waang pi’ จะใช้หลักการตลาด ‘Limited Edition’ ได้อย่างไร?
ก่อนอื่นต้องดูที่หัวใจของแบรนด์ ด้วยความที่เน้นเรื่องเวิร์กชอปท่ามกลางธรรมชาติ สภาพอากาศและฤดูกาลจึงมีบทบาทสำคัญ
เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน จากร้อนสู่ฝน แล้วช่วงปลายปีอากาศเริ่มเย็น ของที่มีในธรรมชาติจึงแตกต่างกันไปตามแต่ละฤดูกาล
เวิร์กชอปของ ‘Waang pi’ จึงมี ‘ฤดูกาล’ ที่แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
จะมีเวิร์กชอปอะไรในแต่ละปี
ในปีที่ธรรมชาติมีความสมบูรณ์ เวิร์กชอปจะมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ต้นปี จนถึงปลายปี
ก่อนที่ฤดูแล้งจะมาถึง ‘Waang pi’ จะชวนไปเก็บน้ำผึ้งป่า โดยจะพาไปทำความรู้จัก ‘ผึ้ง’ ซึ่งบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ พอเก็บน้ำผึ้งป่าแบบพื้นบ้านแล้วก็นำมาแปรรูปเป็นเทียนไขผึ้งและบาล์มบำรุงผิวที่อ่อนโยน
ปีไหนที่อากาศดี ฟ้าฝนเป็นใจจะมีน้ำผึ้งอร่อยๆ แต่ถ้าอากาศร้อนแล้ง รสชาติของน้ำผึ้งจะแตกต่างออกไป
เวิร์กชอปดีๆ ที่อาศัยความอิ่มเอมของธรรมชาติอย่าง ‘น้ำผึ้ง’ จึงมีเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น เรียกว่าเป็น ‘Limited Edition’ ของแบรนด์ก็ได้
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันด้วยธรรมชาติ
‘Waang pi’ โดดเด่นมากในเรื่องการนำของพื้นบ้านและวัตถุดิบธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ในวันที่กาแฟมีความแมส และการเป็นบาริสตา คือความฝันของหลายคน การได้ชงกาแฟอย่างละเมียดละไม ค่อยๆ เลือกสรรเมล็ดกาแฟ ชงอย่างประณีตแล้วเสิร์ฟใส่แก้วสวยจึงเป็นการใช้เวลาดีๆ กับสิ่งที่เป็นแพสชัน
‘Waang pi’ ก็เลยชวนไปเก็บเมล็ดกาแฟสดมาคั่วให้อ่อน หรือแก่ตามชอบแล้วทำเป็นกาแฟโฮมเมด
แต่ถ้าชอบดื่มชามากกว่า ก็มีเวิร์กชอปเก็บใบชาสด แล้วนำมานวดและบ่มเป็นใบชาแบบต่างๆ เวิร์กชอปนี้มีทั้งชาดำและชาเขียวซึ่งต้องยอมรับในเรื่องรสชาติ
แนวคิดของ ‘Waang pi’ ในเรื่องนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากชงกาแฟ หรือชาเอง หรือนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจร้านกาแฟและร้านชาก็ได้
แพ็กมาอย่างดี
ทุกวันนี้การชอปปิงออนไลน์เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนในเมืองใหญ่ แล้วการหา ‘เวลาว่าง’ ออกไปหาธรรมชาติยังอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
อีกรูปแบบของโปรดักต์ภายใต้แบรนด์ ‘Waang pi’ จึงเป็นเวิร์กชอปออนไลน์ที่จัดส่งวัตถุดิบและอุปกรณ์จำเป็นมาให้พร้อม
ลองนึกภาพสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกาแฟเย็นอย่าง ‘น้ำเชื่อมวานิลลา’ จะดีแค่ไหนถ้าสามารถทำนำ้เชื่อมวานิลลาเองได้
ในชุดเวิร์กชอปออนไลน์ ‘Waang pi’ จะแพ็กเถาวานิลลาสดมาให้ลองปลูกแล้วยังเตรียมฝักวานิลลาสดมาให้บ่มเป็นน้ำเชื่อม พอได้รับชุดเวิร์กชอปแล้วก็ดูวิธีปลูกและบ่มฝักวานิลลาได้ในช่องทางออนไลน์ของ ‘Waang pi’
ทั้งสะดวก ทั้งได้เรียนรู้ในสิ่งที่เป็นแพสชัน และยังแก้ปัญหาให้ในวันที่ไม่มี ‘เวลาว่าง’ ด้วย
