ไม่ว่าอากาศภายนอกหรือในใจจะรุ่มร้อนสักแค่ไหน
เมื่อก้าวเข้ามาในเขต ‘อาทิตย์ ธารา’ บรรยากาศริมแม่น้ำบางปะกงและเรือนไม้สีขาวสะอาดก็โอบกอดเราด้วยความร่มรื่นเย็นสงบ
ลมแม่น้ำพัดความรื่นรมย์และเสียงเพลงเบาๆ มาทักทาย เป็นสัญญาณว่าการพักผ่อนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“สิบกว่าปีที่แล้วพี่ตั้งใจจะสร้างบ้านเพิงหมาแหงนสักหลังหนึ่ง
เพราะเบื่อความวุ่นวายของกรุงเทพมหานคร เลยตัดสินใจขอที่สักผืนจากพ่อแม่ที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก
แรกๆ ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อแม่มาซื้อที่นี่ไว้ทำไม ตอนตระเวนดูต้องรบกวนชาวบ้านฟันทางเข้ามา
เพราะพื้นที่เป็นป่า ต้นไม้คลุมหมด นกและสัตว์เยอะมาก แต่พอเดินมาถึงตลิ่ง ได้เห็นแม่น้ำและวิวที่นี่ก็เข้าใจทันทีเลย”
พี่อ๊าร์ต-หม่อมหลวงอภิชิต
วุฒิชัย เล่าความเป็นมาของที่พักสวยเก๋ริมน้ำที่มองเห็นดวงตะวันตกดินได้ถนัดตา เพิงหมาแหงนหลังแรกของพี่อ๊าร์ตและพี่กบ-อาภาศิริ
เทพหัสดิน ณ อยุธยา
ถูกสร้างขึ้นด้วยวิธีคิดพื้นฐานว่าต้องเป็นบ้านที่มองเห็นดาวได้ทุกที่
ไม่ว่าจะนั่งบนบันไดหรือมองจากห้องนอน เมื่อสร้างเสร็จก็เริ่มสร้างหลังที่ 2 โดยเริ่มจากการสร้างจากุซซี่ก่อน
ตามด้วยห้องนอนและห้องน้ำกลางแจ้ง
“เราต้องออกตัวก่อนว่าเราไม่ใช่สถาปนิก
เราเป็นสถาปนึก ทุกสิ่งถูกสร้างขึ้นอย่างจับพลัดจับผลู พูดอย่างตรงไปตรงมาคือมั่ว แต่ถ้าจะพูดให้เท่
มันเป็น craftsmanship ชนิดหนึ่ง ค่อยๆ
ประดิษฐ์ไปทีละนิด มองว่าน่าจะสวยก็ทำ พอสร้างบ้านหลังที่ 1 แหงน หลังที่ 2
ก็ต้องแหงน หลังที่ 3 ก็แหงนกันไปหมด เลยไปทำเรือนใหญ่ที่สุดแหงนด้วย เราไม่ได้เปิดหนังสือฝรั่งมาก๊อป
แต่เอาหัวใจตัวเองมาพล่ามทำเพลงว่าอยากได้อะไร เรามีความสุขที่ได้นั่งได้นอนอยู่บนไม้
อยู่กับธรรมชาติ ได้พลังจากมัน”
อาทิตย์
ธารา เปิดตัวสู่โลกภายนอกหลังจากบ้านสร้างเสร็จไป 3 หลัง
ทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่าที่นี่ใหญ่เกินกว่าจะอยู่กันเองเพียงไม่กี่คน
เลยตัดสินใจเปิดบ้านให้เป็นที่พักผ่อนของคนรักธรรมชาติและความสงบ เรือนไม้ 4 หลัง 12
ห้องตั้งชื่อว่าสัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ
ตามหลักฆราวาสธรรม 4 โดยบ้านขันติมีห้องนั่งเล่นรวมด้านล่างให้แขกเข้ามาอ่านหนังสือ
ฟังเพลง กินข้าว หรือจัดปาร์ตี้ตามชอบ ส่วนชั้นบนเป็นห้องส่วนตัวของเจ้าบ้านและห้องพระที่ใช้ทำบุญอยู่เสมอ
ทั้งพี่กบและพี่อ๊าร์ตมาจากครอบครัวเก่าและชอบของโบราณอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงผสมผสานความโมเดิร์นกับข้าวของวินเทจที่มีได้อย่างเก๋ลงตัว
การรับแขกของที่นี่ไม่ได้เป็นการเลือกของผู้เยี่ยมเยือนฝ่ายเดียว
แต่พี่กบจะพูดคุยทำความเข้าใจกับแขกที่จองห้องพักด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจเลือกรับคนที่เข้าใจสไตล์ของบ้านพัก
พี่อ๊าร์ตอธิบายว่ากระบวนการนี้ทำให้คนที่เข้ามาไม่ใช่แค่ลูกค้าที่จำเป็นต้องต้อนรับตามหน้าที่
แต่เป็นเหมือนเพื่อนหรือญาติที่ดูแลกันด้วยใจ
“แขกที่นี่เราไม่เรียกว่าลูกค้า
เราเรียกว่าแขก เพราะว่าในที่สุดเขาก็มาพักอยู่ในบ้านเรา ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ไม่ใช่รีสอร์ต ไม่ใช่ bed and breakfast
มันไปตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษว่า lodge เหมือนเป็นบ้านคนคนหนึ่งที่มันใหญ่ไป
เลยเปิดให้แบ่งปัน คิดเงินเฉพาะเท่าที่จำเป็นต้องคิด เราทั้งคู่ผ่านงานโรงแรมมา
เราจะรู้ว่าเวลาคุยโทรศัพท์กัน เขายิ้มคุยกับเราอยู่รึเปล่า หรือเขาบึ้งตึง
หรือเขากอดอกคุยกับเรา คุณเป็นแค่ที่พัก คุณต้องให้บริการฉันนะ
เราจะรู้สึกจากน้ำเสียงที่เขาพูดกับเรา ถ้าพูดคุยกันโอเค ก็รู้จักกันไปครึ่งตัว
เหมือนกลายเป็นเพื่อนกันก่อนที่จะมา”
เจ้าบ้านสาวเข้ามาสมทบและพาเราขึ้นไปกราบพระในห้องพระด้านบน
ห้องพิเศษที่สร้างความทรงจำดีๆ มากมายให้ผู้เยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด
วันสงกรานต์ วันพ่อ หรือกระทั่งทำบุญโกนผมไฟเด็ก เจ้าของบ้านก็รับเป็นเจ้าภาพนิมนต์พระมาสวดและเชิญแขกมาทำบุญร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ให้แขกทั้งไทยและฝรั่งได้ร่วมพิธีด้วยกัน หรือถ้าใครไหว้วานให้จัดเซอร์ไพรส์
คู่รักช่างคิดก็เป็นธุระจัดหาพลุ ดอกไม้
เขียนโน้ตให้ แถมออกไอเดียเซอร์ไพรส์แขกเองเสมอๆ
“น้ำใจ มันพูดแค่สองคำ แต่มันอธิบายได้มาก
คนไทยมีน้ำจิตน้ำใจอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว เราทำบ้านที่มาแล้วสบาย ชิลล์ๆ ไม่เสแสร้ง
มาจากหัวใจ เมื่อเจ้าบ้านเห็นว่าแขกมีความสุข อิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่น ได้พักผ่อน เห็นคนรักกันก็ดีใจ เห็นคนมีความสุขก็มีความสุขตามไปด้วย”
พี่กบพูดยิ้มๆ
และเริ่มปรึกษาพี่อ๊าร์ตว่าวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของครอบครัวชาวฝรั่งเศสที่พักอยู่
ทั้งคู่จะแอบไปหาเค้กมาฉลองให้ เราเก็บความลับนี้ไว้เมื่อเดินกลับลงมาด้านล่าง
ริมระเบียงไม้กว้างมีเรือคายัคและอุปกรณ์กีฬาทางน้ำวางเรียงราย พร้อมให้แขกที่หมุนเวียนกันมาเยี่ยมได้ทำกิจกรรมสนุกๆ หรือสร้างช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน
แถมช่วงเย็นที่แดดร่มลมตก เจ้าบ้านทั้งสองจะขับเรือสปีดโบ๊ทพาแขกชมวิวพระอาทิตย์ตกลงคุ้งน้ำบางปะกงด้วยตนเอง
เรารู้ว่าภาพฟ้ากับน้ำบรรจบกันสวยบาดใจไม่ใช่สิ่งเดียวที่ดึงดูดคนมาที่นี่
การต้อนรับอย่างใส่ใจใกล้ชิดเหมือนคนในครอบครัวทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าที่พักน่ารักชั่วคราว
แต่เป็นบ้านที่มีจิตวิญญาณอบอุ่นจนเราอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง
อาทิตย์ ธารา
ลอดจ์
ที่อยู่: 78, 78/1 หมู่ที่ 2 ต.บางยาง อ.บ้านสร้าง
จ.ปราจีนบุรี
โทรศัพท์: 089-949-1956
“เป้าหมายของเราคือการทำให้คนที่มาอยู่บ้านเรามีความสุข
ให้เขาได้พักผ่อน อยู่กับธรรมชาติ ได้พบกับน้ำใจและความจริงใจของชาวบ้าน การเจอกันซึ่งๆ หน้า
เราสัมผัสได้ถึงความสุขที่ส่งผ่านให้กัน ถ้าความรู้สึกข้างในเป็นบวก
อีกฝ่ายเขาก็สัมผัสได้ ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นบ้านของเราที่อยากแบ่งปันความสุขให้คนอื่นๆ”
ม.ล.อภิชิต วุฒิชัย และ อาภาศิริ เทพหัสดิน ณ
อยุธยา
เจ้าของอาทิตย์ ธารา ลอดจ์
ภาพ มณีนุช บุญเรือง
เดินทางไปเก็บเรื่องราวจากเจ้าบ้านปราจีนบุรีกันต่อได้ที่นี่
