The Living Room ห้องนั่งเล่นในบ้านเก่ากับเฟอร์นิเจอร์สุดเก๋า คาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งกาแฟ และแรงบันดาลใจในทุกมุม

วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ฝนตกพรำๆ มนุษย์หลากหลายประเภทต่างก็มีกิจวัตรที่เป็นปัจเจกกันไป บ้างก็อยากนอนเอกขเนกไม่สนอะไรทั้งสิ้น บ้างก็ยังคงต้องกระเสือกกระสนฝ่าลมฝนไปทำงาน แต่บ้างก็อยากหาที่พักผ่อนหย่อนกายใจ ได้จิบกาแฟ สนทนากับเพื่อนคนโปรด และฟังเพลงคลอเบาๆ 

หากคุณคือมนุษย์คนหนึ่งที่กำลังมองหาสถานที่แบบนั้น คอลัมน์ ‘ที่ชอบ’ อยากแนะนำให้รู้จักกับ ‘The Living Room’ ห้องนั่งเล่นที่จะช่วยให้เวลาในวันพักผ่อนของคุณเดินไปอย่างช้าๆ เสมือนกับหยุดเวลาเอาไว้ชั่วขณะ ณ บ้านเก่าหลังหนึ่ง พื้นที่ซึ่งคุณจะถูกรายล้อมด้วยงานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์สุดอาร์ต กลิ่นหอมคลุ้งของกาแฟ รสละมุนของมัทฉะ และมนต์สะกดของสารพัดข้าวของวินเทจที่ตั้งใจคัดสรรมาอย่างดี 

The Living Room

ร้านกาแฟที่หากเดินไปดุ่มๆ อาจหาตัวไม่เจอ

หนึ่งในนานับความน่าสนใจของ ‘The Living Room’ คือการที่คาเฟ่นี้ซ่อนตัวอยู่ภายใน ‘บ้านตรอกถั่วงอก’ บ้านเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ย่านเยาวราช 

ด้วยความที่บ้านตรอกถั่วงอกเองก็ตั้งอยู่ในระแวกที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่เรียงรายสลับดีไซน์กันไป ทำให้หากเราเดินดุ่มๆ จากทางเท้า และชื่นมื่นกับวิวซ้ายขวา โดยไม่ได้ตั้งใจมองให้ดี เราอาจพลาดเดินเลยไปก็ได้ และหากคุณไม่เคยมีประสบการณ์กับบ้านหลังนี้มาก่อน อาจเข้าใจว่าอาคารหลังใหญ่แห่งนี้ เป็นบ้านของผู้ดีมีเงินที่เราไม่อาจเอื้อมถึง แต่หากคุณได้ลองเข้าไปด้านในแล้วจะพบว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับแหล่งรวมความชิคที่บอกผ่านร้านรวงต่างๆ ที่เปิดกิจการอยู่ด้านในตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบาร์ ร้านอาหารชาติพันธุ์ แกลเลอรี รวมถึง ‘The Living Room’ ร้านกาแฟที่เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้ 

‘บ้านตรอกถั่วงอก’ 

บ้านเก่าที่เอามาตีความใหม่

ก่อนจะไปทำความรู้จักกับห้องนั่งเล่นประจำบ้านกันให้มากขึ้น เราอยากชวนให้ทุกคนมารู้จักกับบ้านหลังนี้กันสักหน่อย 

เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นบ้านของบรรพบุรุษตระกูล ‘อัสสกุล’ อดีตเคยใช้เป็นสำนักงาน โรงเรียนฝึกอบรม และสถานที่รวมตัวของครอบครัว บ้านหลังนี้เคยมีช่วงเวลาที่คึกคัก ก่อนจะทิ้งร้างไปนานกว่า 50 ปี จนกระทั่งทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลอัสสกุล วินด์, ซัน, แซนด์ และซี ได้ตัดสินใจปลุกชีวิตของบ้านนี้อีกครั้ง หลังจากทิ้งร้างไปกว่า 50 ปี โดยได้ตั้งชื่อเป็น ‘บ้านตรอกถั่วงอก’ มีที่มาจาก ‘ตรอกถั่วงอก’ ตรอกเล็กๆ ที่อยู่ติดกับบ้าน 

ตั้งแต่อดีตจนกระทั่งปัจจุบันระแวกโดยรอบบ้านเป็นชุมชนชาวจีนที่มีความหนาแน่นของผู้คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า ส่งผลให้พื้นที่นี้ยังคงเต็มไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ที่ยังคงใช้สูตรอาหารจากบรรพบุรุษที่สืบทอดมากว่า 100 ปี ร้านขายกระดาษไหว้เจ้า และวัดวาอารามที่มีอายุหลายสิบปี 

ด้วยความที่บ้านหลังนี้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน การจะบูรณะบ้านหลังนี้จึงต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจบริบทโดยรอบของละแวกนี้ และยังต้องคงเสน่ห์ของย่านเอาไว้โดยไม่ลืมรากฐาน แต่ก็ต้องอยู่ได้อย่างยั่งยืนทั้งในยุคปัจจุบัน และอนาคต อันเป็นนิยามของคำว่า “เปลี่ยนแปลง เติบโต แต่หยั่งรากจากอดีต”

ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ‘บ้านตรอกถั่วงอก’ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะครีเอทีฟสเปซ อันเป็นพื้นที่ที่ผู้คนซึ่งหลงใหลในงานศิลปะมารวมตัวกัน เป็นสถานที่ที่ทำได้สารพัดสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีจัดนิทรรศการ เคยมีตลาดงานอาร์ต และเคยเป็นลานสวิงแดนซ์มาด้วย จนกระทั่งในช่วงปี 2024 บ้านตรอกถั่วงอกได้ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนตัวเองไปทีละนิด เริ่มมีธุรกิจร้านรวงต่างๆ มาเช่าพื้นที่ประกอบกิจการ แต่อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณของความอาร์ตไว้ได้อย่างดี 

เพราะห้องนั่งเล่นคือศูนย์รวมของทุกคนในบ้าน

ณ ปัจจุบันแต่ละชั้นของบ้านถูกใช้สอยอย่างคุ้มค่า และ ‘The Living Room’ ก็ได้จับจองพื้นที่บริเวณชั้น 4 ของบ้าน ซึ่งเดิมทีเคยเป็นสถานที่ไหว้บรรพบุรุษ ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนให้กลายมาเป็นคาเฟ่ที่เราสามารถเห็นวิวของชุมชนได้แบบใกล้ๆ 

ร้านกาแฟที่แอบหลบอยู่ในบ้านแห่งนี้ ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดที่ว่า ‘บ้านตรอกถั่วงอก’ เคยเป็นพื้นที่สำหรับการรวมตัวของครอบครัว เป็นพื้นที่ซึ่งความอบอุ่นยังคงตลบอบอวลอยู่ในความทรงจำของลูกหลาน ‘The Living Room’ จึงถูกสร้างขึ้นให้เป็นคาเฟ่ที่ยังคงไว้ซึ่งบรรยากาศของห้องนั่งเล่นในบ้าน ที่เปิดต้อนรับผู้คนให้มาพบปะ พูดคุย และเชื่อมโยงกันผ่านกาแฟ ศิลปะ เวิร์กช็อป 

เมื่ออยากให้บรรยากาศของร้านเหมือนกับห้องนั่งเล่นที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น การตามหาเฟอร์นิเจอร์ที่ใช่ดีไซน์ที่ชอบ จึงเป็นโจทย์สำคัญในการออกแบบให้ ‘The Living Room’ กลายเป็นห้องนั่งเล่นที่แท้จริง และหลังจากที่ใช้เวลาตามหาเฟอร์นิเจอร์เพื่อเติมเต็มพื้นที่แฮงเอาต์แห่งใหม่นี้อยู่นาน ทีมงานจึงได้พบกับชิ้นงานที่ลงตัวจาก Surround Living แหล่งรวมเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านที่มีเซนส์ในการมองข้าวของอย่างเฉียบขาด 

ด้วยความเชี่ยวชาญในการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Surround Living ได้ช่วยปลุกชีวิต เนรมิตบรรยากาศของคาเฟ่ให้ไม่เหมือนใคร เพราะหากได้ลองเพ่งมองไปที่เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น เราจะเห็นได้ว่าพวกมันเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ซับซ้อน มีกลิ่นอายวัฒนธรรมเอเชีย และงานฝีมืออันประณีตที่ยิ่งทำให้ข้าวของเหล่านี้เป็นงานศิลปะชิ้นเอก ซึ่งเมื่อประกอบเข้ากันกับสถาปัตยกรรม และการออกแบบบ้าน ทั้งสองสิ่งจึงได้ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว  เสมือนกับว่าเกิดมาเพื่อกันและกัน 

ความพิเศษอีกหนึ่งสิ่งคือเฟอร์นิเจอร์ในคาเฟ่แห่งนี้จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่จะมีผู้ปรารถนามัน เพราะหากคุณมาที่นี่แล้วเกิดตกหลุมรักเข้ากับโต๊ะเก้าอี้ชิ้นไหน คุณจะสามารถสู่ขอเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เข้าบ้านได้ และนั่นก็แปลว่า ‘The Living Room’ ไม่ได้เป็นเพียงคาเฟ่ หรือร้านกาแฟ แต่ยังเปรียบเทียบเท่ากันกับโชว์รูมที่เราจะได้มาสอดส่องไอเดียในการจัดวางข้าวของต่างๆ  และได้แรงบันดาลใจกลับไปจัดโน่นแต่งนี่ในมุมสักมุมของบ้านแน่นอน

ของเก่าจะไม่ยอมเก็บอีกต่อไป 

นอกจากความละเอียดอ่อนในการคัดสรรของประดับตกแต่ง ‘The Living Room’ ยังได้นำชิ้นส่วนเก่าๆ ของบ้านมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งในการประดับตกแต่งพื้นที่ในคาเฟ่อย่างร่วมสมัย อย่างการหยิบเอาระแนงไม้เก่ามาประดับเข้ากับบาร์ชงกาแฟ หรือการดัดแปลงกำแพงทึบแบบดั้งเดิม ให้กลายมาเป็นกระจกให้แสงธรรมชาติได้ส่องถึงพื้นที่ภายใน แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาองค์ประกอบดั้งเดิม เช่น หน้าต่าง บานประตู เพื่อแสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนระหว่างอดีต และปัจจุบัน

แม้ตัวอาคารจะถูกรีโนเวทอันเนื่องมาจากเหตุผลในเชิงโครงสร้าง แต่รูปลักษณ์ของแบบแปลนภายในยังคงรักษาหน้าตาแบบดั้งเดิมเอาไว้ เพื่อเคารพทั้งประวัติศาสตร์ของบ้าน และบริบทของย่านเยาวราช การเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย เพื่อคงความทรงจำของสถานที่ และความคุ้นเคยของชุมชนโดยรอบ

จิบกาแฟ ดื่มด่ำบรรยากาศ และชมงานอาร์ตไปด้วย

แน่นอนการได้ย่างก้าวเข้ามาภายในบ้านตรอกถั่วงอก และต่อเนื่องมายังคาเฟ่ ‘The Living Room’ ผู้ที่แวะมาเยือนจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันไว้ด้วยกันแล้ว พื้นที่ภายในคาเฟ่ยังรับบทเป็นแกลเลอรี ที่นำเสนอนิทรรศการงานศิลป์ซึ่งจัดแสดงอยู่บริเวณชั้น 3 ของบ้านตรอกถั่วงอก ซึ่งสารพัดภาพวาดเขียน รวมถึงงานศิลปะตั้งวางต่างๆ ก็จะสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ช่วงเวลา 

ปัจจุบันนิทรรศการที่จัดแสดงอยู่ภายในคาเฟ่ คือนิทรรศการ ‘One Generation Plants the Trees, Another Gets the Shade’ โดย ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์​

นิทรรศการที่จะชวนให้ทุกคนฉุกคิดถึงการกระทำอันยั้งคิดจากเงื้อมมือของเรา ที่ท้ายที่สุดอาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ของคนรุ่นลูกรุ่นหลาน ผ่านมุมมองของศิลปินที่ถ่ายทอดออกมาในภาพวาด ประติมากรรม และผลงาน Mixed Media  ซึ่งชิ้นงานในคอลเลกชันนี้ได้ใช้สอย และจัดแสดงทั่วทุกพื้นที่ในบ้านตรอกถั่วงอกเป็นครั้งแรก  

การที่ใครสักคนหนึ่งจะเลือกมาที่นี่ด้วยความชอบในอะไรสักอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นบ้าน กาแฟ หรืองานศิลปะ แต่ทันทีที่ได้สัมผัสกับสักองค์ประกอบในบ้านหลังนี้ สิ่งอื่นๆ ภายในบ้านจะเชื้อเชิญให้เราได้ทำความรู้จักกับมิติใหม่ๆ ที่อาจไม่คุ้นเคย อย่างเช่นคนคนหนึ่งอาจมา ‘The Living Room’ เพราะเป็นนักดื่มกาแฟ หรือเป็นสายคาเฟ่ฮอบปิงตัวยง แต่เมื่อมาถึงเขาคนนั้นจะได้มีประสบการณ์ร่วมกับบ้านเก่ากว่า 100 ปี ที่อวดเรื่องราว และดีไซน์ของมันอย่างสุดฤทธิ์ ได้ชื่นชมงานศิลปะที่โลดแล่นออกจากแกลเลอรี อีกทั้งยังได้เชยชมเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ ที่ไม่ได้เห็นได้ที่ไหนบ่อยๆ ในเวลาเดียวกัน 

ทั้งหมดนี้คือเสน่ห์ของ ‘The Living Room’ ห้องนั่งเล่นที่ไม่ได้เป็นเพียงคาเฟ่ในบ้านเก่า แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการส่งต่อแรงบันดาลใจที่เชื้อเชิญให้เราเปิดมุมมองต่อสิ่งใหม่ๆ และค้นพบความงามในสิ่งที่อาจไม่เคยมองเห็นมาก่อน

The Living Room บ้านตรอกถั่วงอก
เปิดให้บริการทุกวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 10:00 – 18:00 น.

AUTHOR