จากความสงสัยว่าเด็กเจนเนอร์เรชั่นใหม่ที่โตมาพร้อมสมาร์ทโฟน จะยังรักการอ่านหนังสือกันอยู่ไหม? ถ้ายังรักการอ่าน เด็กสมัยนี้เขาจะอ่านอะไรกันอยู่? ยิ่งในชีวิตยุคดิจิตอลที่ทุกคนหมดเวลาไปกับการสไลด์หน้าจอมือถือ เด็กสมัยนี้เขามีวิธีแบ่งเวลาในการอ่านหนังสืออย่างไร? เราเลยออกค้นหาคำตอบจากเด็กๆ ใกล้ตัวอย่างชาว a team junior 13 อีกครั้ง!

ตอนนี้อ่านอะไรอยู่ครับคุณบรรณาธิการจูเนียร์?
ตอนนี้อ่านหนังสือการ์ตูน ‘Bakuman’ ของ อ.Tsugami Ohba กับ อ.Takeshi Obata

ทำไมถึงหยิบเล่มนี้มาอ่าน?
อ่านการ์ตูนเรื่องนี้น่าจะ 10 รอบได้ หนึ่งคือ มันพูดถึงเรื่องขั้นตอนการผลิตการ์ตูนสักเรื่องที่ต้องคิดแล้วคิดอีกหลายอย่าง สองคือ มันพูดถึงความพยายาม ความฝัน และความรัก ทั้งหมดทั้งมวลมันผสมๆ กันจนเราอินและรักการ์ตูนเรื่องนี้ในที่สุด

จังหวะไหนในชีวิตที่ทำให้คุณต้องหยิบหนังสือออกมาอ่านอย่างจริงจัง?
มักจะหยิบมาอ่านตอนหัวตันๆ คิดอะไรไม่ออก หรือช่วงที่ต้องการแรงบันดาลใจมากๆ

การอ่านมันมีอิทธิพลกับชีวิตเราอย่างไรบ้างนะ?
การอ่านมีผลต่อชีวิตมาก เสน่ห์การเข้าใจอะไรสักอย่างผ่านตัวหนังสือมันเป็นความรู้สึกที่วิเศษ ดังนั้นปัจจุบันเลยอยากทำอะไรให้ได้แบบนั้นบ้าง

Quote ไหนในเล่มที่เติมพลังใจให้คุณในวันปิดเล่ม?
Quote ที่ชอบคือ “ถึงเขียนการ์ตูน มันจะเหมือนการเสี่ยงดวงก็เถอะ แต่ถ้าไม่ซื้อล็อตเตอรี่ มันจะไปถูกได้ยังไง”

หนังสือในดวงใจสาวพิสูจน์อักษรที่หลงรักสีชมพูอย่างคุณคือเล่มไหน?
โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง (เขียน: คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ / แปล: ผุสดี นาวาวิจิต)

ทำไมถึงชอบหนังสือเล่มนี้นะ?
จริงๆ เคยได้ยินชื่อหนังสือมานานมาก ตั้งแต่เด็กๆ เลยด้วยซ้ำ แต่เพิ่งจะมีจังหวะได้อ่าน ที่ชอบเพราะเนื้อเรื่องมันฟีลกู๊ดมากๆ การบรรยายถึงวิถีชีวิตของเด็กๆ บรรยากาศ หรือวัฒนธรรมต่างๆ มันลงตัวและกลมกล่อมไปหมด อ่านแล้วยิ้มตามไปตลอดทั้งเล่ม

ชอบหยิบหนังสือออกมาอ่านตอนไหน?
ปกติจะเลือกอ่านหนังสือสักเล่มในช่วงที่ว่างจริงๆ เท่านั้น ว่างแบบไม่ต้องแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นอีก เพราะอยากอ่านและอินไปกับหนังสือเล่มนั้นแบบเต็มที่ พูดง่ายๆ คือชอบอ่านแบบรวดเดียวจบนั่นแหละ (แต่ก็ไม่ถึงกับจบภายในครั้งเดียวที่เปิดอ่านนะ)

การอ่านมันมีอิทธิพลกับชีวิตเราอย่างไรบ้าง?
สอนอะไรเยอะมาก แต่ที่สำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตสุดๆ คือทำให้เราหัดตกตะกอนจากสิ่งที่อ่าน ถ้าเคยได้ยินคำว่า ‘ความหมายระหว่างบรรทัด’ มันก็คืออะไรประมาณนั้นแหละ เสน่ห์ของหนังสือคือมันมีหลายอย่างที่ไม่ได้บอกกับเราตรงๆ

Quote ไหนที่ประทับใจสุดๆ ?
“อย่ารังแกสัตว์เลี้ยงนะ เพราะมันเชื่อใจเรา การทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของมันเป็นสิ่งไม่ดี เช่น ให้หมาทำท่าขอมือแล้วไม่ให้ขนม ทั้งๆ ที่สัญญาจะให้ มันจะเลิกเชื่อเราและกลายเป็นหมานิสัยไม่ดีไปเลย”

หนังสือเล่มไหนกระแทกใจอาร์ตไดเรกเตอร์หน้าตาจิ้มลิ้มอย่างคุณที่สุด?
เอาชีวิตรอดในถ้ำลึก – Hong, Jae Cheol กับ Ryu, Gi-Un

อะไรทำให้รู้สึกกระแทกใจ?
เนื้อเรื่องสนุก ให้ความรู้ เผื่อเราบังเอิญไปวิ่งเล่นในถ้ำแล้วหลงจะได้ไม่ตื่นเต้น

ชอบหยิบหนังสือออกมาอ่านตอนไหน?
อ่านช่วงว่างๆ ไม่มีอะไรทำ

นอกจากลายเส้นน่ารักเหมือนหน้าตาแล้ว หนังสือเล่มนี้มีผลกับชีวิตคุณแง่ไหนบ้าง?
ทำให้เราได้รู้ประโยชน์หลายๆ อย่าง บางอย่างเอามาปรับใช้กับชีวิตได้ เช่น หลงในถ้ำ

งั้นขอ Quote คมๆ จากหนังสือเล่มนี้สักประโยคได้ไหมนะ?
“ทุกถ้ำมีทางออก ถ้าไม่มีทางออก ก็ออกทางเข้า”

หนังสือเล่มไหนที่ทำให้สาวขี้ชง(กาแฟ)อย่างคุณประทับใจ?
It’s not how good you are, It’s how good you want to be. / Paul Arden

ทำไมถึงชอบหนังสือเล่มนี้?
เราเคยวูบๆ อยากเป็นครีเอทีฟโฆษณา แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองแม่งไม่ครีเอตเอาซะเลยโว้ย พอมีจังหวะได้ถามพี่นัท-ณัฐนันท์ วัชรปรีชาสกุล อาร์ตไดเรกเตอร์ที่ถูกสัมภาษณ์ใน a day 202 เด็กสมัยนี้อะ (ขายของค่ะขายของ) ว่าพอมีหนังสือครีเอทีฟแนะนำมั้ย พี่นัทก็แนะเล่มนี้มาตอนแรกนึกว่าจะเป็น how to แต่ไม่ใช่เด้อ พออ่านแล้วรู้สึกว่าได้กำลังใจ แนวคิด ทัศนคติในการทำงาน มันทำให้คำว่า ‘Creative’ ที่เราเคยเข้าใจเปลี่ยนไปอะ ส่วนพาร์ตหลังๆ เป็นเรื่องเอเจนซี่โฆษณา อันนี้คนเป็นเอเจนซี่อ่านแล้วคงอิน ที่สำคัญ ถ้าจะเริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเราว่าเล่มนี้เปิดทางมากๆ ทั้งเลย์เอาต์ รูปภาพ ตัวหนังสือ อ่านง่ายสุดๆ ไม่ได้มาแบบ text บั้งเดียวจนเห็นแล้วอยากถอดใจ

วัยรุ่นงานล้นอย่างคุณไปหาเวลาอ่านหนังสือเอาตอนไหน?
อ่านตอนที่นึกครึ้มใจ สารภาพก่อนว่าเราไม่ค่อยอ่านหนังสืออะ แต่เล่มนี้ดีตรงที่แต่ละบทมันสั้นๆ ไม่กี่หน้า เลยทยอยๆ อ่านไปไม่รีบร้อน (เพราะงานร้อนกว่า)

การอ่านหนังสือมีอิทธิพลกับชีวิตอย่างไรบ้าง?
บางเล่มพออ่านจบ มันปลดล็อกอะไรบางอย่างในตัวเรา บอกให้เราทำนั่นทำนี่เป็นแรงบันดาลใจ เป็นความรู้ มันทำให้เราตั้งคำถามและได้รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย

Quote ไหนในเล่มที่เห็นแล้วต้องไฮต์ไลท์แลงๆ?
“Don’t look for the next opportunity, the one you have in hand is the opportunity.”

หนังสือเล่มโปรดของเด็กสาวสายแข็งอย่างคุณคือเล่มไหน?
มาร์โควัลโด Marcovaldo ovvero Le stagioni in città / ผู้เขียน Italo Calvino ผู้แปล นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

อะไรที่ทำให้ตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้?
อาจารย์เคยถามเพื่อนในห้องว่า “คุณชอบอ่านหนังสือนี่ อ่านอะไรอยู่?” เพื่อนเรารีบตอบทันที “ตั้งแต่เรียนกับอาจารย์ไม่เคยได้อ่านเลยครับ” เราก็แอบคิดตาม เออปี 3 เรียนหนักมากจนไม่ได้อ่านอะไรเลยนี่หว่า กองหนังสือก็เท่าภูเขาแล้ว (ทบจากงานหนังสือที่เวียนมาไม่รู้กี่ครั้ง) เหลือบไปเห็นเล่มนี้นอนแอ้งแม้งอยู่ ค่อนข้างบาง เลยหยิบขึ้นมาอ่านดู โคตรตลกเลยอะ มาร์โควัลโดมีความเด๋อด๋า ซื่อๆ (แต่ก็คิดนะว่ามันตลกร้ายอยู่เหมือนกัน) ถ้าถามว่าเด๋อแค่ไหน ต้องลองอ่านบทแรกดู ‘เห็ดในเมือง’ กับ ‘ตัวต่อรักษาโรค’ ป.ล. มีพี่คนนึงไซโคเล็กๆ ว่าอ่านเหอะ ตลกกว่าที่คิดนะ

รู้มาว่าเป็นคนทำงานตลอดเวลาไม่เว้นวันหยุด คุณหาเวลาอ่านหนังสือจนจบเล่มได้ยังไงกัน?
ชอบอ่านวันที่ขลุกตัวอยู่ในห้อง รอผ้าที่กำลังซักอยู่ในเครื่อง แล้วก็ตอนทำฟัน หรือตอนไหนก็ได้ที่ต้องรออะไรสักอย่างนานๆ เพราะอยากใช้มือถือให้น้อยลง

การอ่านหนังสือมันหล่อหลอมชีวิตคุณอย่างไรบ้าง?
หนังสือขัดเกลาทั้งจิตใจ การทำงาน หรือบางครั้งให้ที่พักพิงแก่เราเสมือนโลกอีกใบ เป็นหลุมหลบภัยให้เรา บางเรื่องกลับมาอ่านตอนโตความรู้สึกหรือความคิดก็ตกตะกอนต่างกัน

เชื่อว่าเล่มนี้ต้องมี Quote โดนๆ แน่
“ถ้าเราบอกว่าที่ไหน พวกมันก็จะพาแก๊งไปตามหา แล้วข่าวก็กระจายไปทั่วทั้งย่าน เห็ดก็จะไปลงหม้อคนอื่น!” ดังนั้น การค้นพบที่พลันนำความรักในมวลมนุษย์มาเติมหัวใจเขาจนเต็ม ตอนนี้กลับทำให้เขาเกิดความกระหายที่จะได้เป็นเจ้าของ ท่วมท้นไปด้วยความหวาดวิตก หวงแหน และเคลือบแคลงใจ

หนังสือเล่มไหนที่ทำให้หนุ่มอักษรที่หันมาเอาทางด้านดูโหงวเฮ้งอย่างคุณตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น?
Life of Pi / Yaan Martel

โอโห ไม่ธรรมดาจริงๆ ว่าแต่ทำไมถึงชอบหนังสือเล่มนี้ล่ะ?
ความจริงคือต้องอ่านเรื่องนี้ไปสอบ แต่อ่านไปอ่านมาชักสนุก หนังสือเล่มนี้เปิดโลกมาก มีแนวคิดในการเล่าเรื่องและหลอกคนอ่านที่โดดเด่น หักมุมถล่มทลายจนต้องร้องว้าวเลย แต่ที่กระแทกจิตใจที่สุดคืออารมณ์หลังจากอ่านจบ รู้สึกดาวน์และคิดอะไรเยอะแยะไปหมด หนังสือเล่มนี้ชวนเราตั้งคำถามกับอะไรหลายๆ อย่างที่ใกล้ตัวเรามากๆ อย่างเช่น เรื่องจริงกับเรื่องเล่าแตกต่างกันยังไง วิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์น่าเชื่อถือกว่ากัน อ่านแล้วปวดหัวดี แต่อ่านเอาแค่เนื้อเรื่องก็สนุกได้แล้วจริงๆ นะ มันลุ้นระทึกแล้วก็ตื่นเต้นดี เสียดายที่ค่อนข้างรีบอ่าน ถ้าได้ค่อยๆ ละเมียดละไมกับมันอาจจะได้คิดอะไรเยอะกว่านี้อีก

ปกติชอบอ่านหนังสือตอนไหน ?
เล่มนี้อ่านตอนกลางคืน อ่านถี่และนานหน่อยเพราะช่วงสอบมันเดือดดาล แต่ถ้าปกติแล้วก็ชอบอ่านหนังสือตอนกลางคืนหรือเวลาเดินทางนานๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ต้องรีบ อ่านเรื่อยๆ ถึงที่หมายหรืออยากล้มตัวนอนก็ปิดหนังสือ

การอ่านหนังสือมีอิทธิพลกับชีวิตยังไงบ้าง?
เราเป็นคนไม่ค่อยอ่านหนังสือ พอได้ลองอ่านจริงๆ จังๆ สักเล่มจนจบก็รู้สึกปลื้มใจกับตัวเอง การอ่านหนังสือช่วยเบิกทางสู่แนวคิดใหม่ๆ ได้มากทีเดียว มันเหมือนคนคนหนึ่งกำลังเล่าเรื่องราวบางอย่างหรือฝังแนวคิดของพวกเขาเอาไว้ในแต่ละตัวอักษรให้เราได้ลองลิ้มรส

บางที หนังสือพวกนี้ก็เป็นครูและต้นแบบให้กับเรา เราเชื่อว่าถ้าอยากเขียนเก่งหรือผลิตไอเดียเก่งก็ต้องอ่านเยอะๆ (เสียที่เราเป็นคนขี้เกียจอ่านนี่สิ ฮ่าๆ)

Quote ไหนในเล่มที่ดีงามจนอยากบอกต่อ?
“The world isn’t just the way it is. It is how we understand it, no? And in understanding something, we bring something to it, no? Doesn’t that make life a story?”

ช่างภาพไฟลุกอย่างคุณอ่านอะไรอยู่?
กำลังอ่านหนังสือชื่อ Edward Hopper Masterpieces of Art / Rosalind Ormiston อยู่ครับ

อะไรที่ทำให้คุณหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านชนิดไม่ลืมหูลืมตา?
คือตัวเองสนใจงานศิลปะ โดยเฉพาะ Impressionism กับ Realism มาสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยดูงานของ Claude Monet บ้าง ของคนอื่นๆ บ้าง แต่เอาจริงๆ เราถูกจริตกับงานของ Hopper มากที่สุด เพราะว่างานของเขามันเหมือนการ Snapshot ในช่วงจังหวะนั้นๆ เหมือนกับภาพที่ผมถ่าย ฉะนั้นการได้ดูงานของเขาก็เหมือนเราซึมซับมุมมอง ศึกษาแสงเงาจากชิ้นงานศิลปะที่ถูกยกย่องทั่วโลก

ออกกองถ่ายงานทุกวัน เอาเวลาตอนไหนไปอ่านกันนะ?
อ่านทุกช่วงที่มีเวลาว่าง บนรถเมล์ รถไฟฟ้า ก็อ่าน ถ้าอยู่บ้านเรามักจะอ่านตอนเช้าและก่อนนอน

การอ่านหนังสือมีอิทธิพลกับชีวิตวัยรุ่นอย่างเรายังไงบ้าง?
มีอิทธิพลมากถึงมากที่สุด การอ่านหนังสือทำให้เรามองโลกกว้างขึ้น ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเข้าใจหลายๆ สิ่งมากขึ้น เราว่าการอ่านหนังสือก็คือการมองเห็นความคิดของคนคนหนึ่งให้เราเปิดใจมากขึ้น ทำให้เรากล้าคิด เกิดกระบวนการเรียนรู้ต่อๆ ไป ตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์ ได้คำตอบ กลายเป็นวัฏจักรการเรียนรู้ ทำให้เรารู้สึกหิวกระหายความรู้อยู่ตลอดเวลา

ประโยคไหนในเล่มที่ทำให้ช่างภาพอย่างคุณไฟลุกโชนโหมกระหน่ำดั่งไฟป่า?
“Great art is the outward expression of an inner life of the artist, and this inner life will result in his personal vision of the world.”

หนังสือเล่มไหนที่ทำให้สาวน้อยผู้ชอบท่องเที่ยวไปในโลกวรรณกรรรมหัวใจเต้นแรง?
คู่มือท่องกาแล็กซีฉบับนักโบก (The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy) Douglas Adams เขียน / แทนไท ประเสริฐกุล แปล

อะไรที่ทำให้เรารักหนังสือเล่มนี้?
หนังสือเล่มนี้ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าอภิปรัชญาหรือเรื่องไร้สาระก็ควรค่าแก่การอ่านเหมือนๆ กัน ชอบความยียวนกวนประสาทแบบมีชั้นเชิงและจังหวะตบมุกที่โคตรแม่นยำ (ที่ทำให้ขำเกรียวทุกห้านาทีจนคนข้างๆ หันมามอง) เรื่องราวเริ่มจากสหพันธ์แห่งจักรวาลกำลังจะสร้างทางด่วนตัดผ่านโลกมนุษย์ แต่โลกดันไปขวางเส้นทางที่จะทำเป็นทางด่วนในกาแล็กซีซะนี่ พวกมนุษย์ต่างดาวเลยต้องระเบิดโลกทิ้ง (แหม่! พล็อตมันคุ้นซะเหลือเกิน) เป็นนวนิยายแปลกๆ เล่มหนึ่งที่กลับมาอ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ

บรรยากาศแบบไหนที่ทำให่คุณอดใจไม่ไหวจนต้องหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน?
อ่านก่อนนอนกับตอนนั่งเรือแสนแสบ ช่วงหลังๆ มานี้พบว่าตัวเองมีสมาธิดีเมื่ออยู่ในที่แคบๆ คนเบียดๆ อากาศร้อนๆ เสียงดังๆ อีกอย่างคือหมดเวลาไปกับการเดินทางค่อนข้างเยอะ ก็เลยพกหนังสือไปอ่านบนเรือซะเลย

โลกของการอ่านมันพาเราไปเจออะไรบ้าง?
สำหรับเรา คิดว่าการอ่านทำให้ใจกว้างขึ้นนะ การอ่านหนังสือเหมือนการกดสูตรสร้างทางลัดให้เข้าไปในสมองของคนอื่น ไปดูความคิดของคนที่คิดไม่เหมือนเรา ได้เห็นชุดความคิดหลายๆ แบบที่แตกต่างจากเรา มันก็สนุกดีออก

ขอตัวอย่างประโยคกระแทกใจจากในเล่มหน่อยละกัน!
“Don’t Panic.”

หนังสือในดวงใจสาวพิสูจน์อักษรอารมณ์ดีอย่างคุณคือ?
FULL-TIME DIRECTOR, PART-TIME LOSER. / ธนชาติ ศิริภัทราชัย

ทำไมถึงชอบหนังสือเล่มนี้ ?
เป็น FC พี่เบนซ์มานาน เริ่มติดตามตั้งแต่อ่านเล่ม NEW YORK 1ST TIME และ THE REAL ALASKAชอบความกวนโอ๊ยของนาง นักเขียนคนนี้ทำให้เรายิ้มหัวเราะอยู่มุมเงียบๆ คนเดียวได้ (คนบ้า!) จนกระทั่งเล่มล่าสุดออกมา (FULL-TIME DIRECTOR, PART-TIME LOSER) เราหลงรักมันเลยล่ะ เรารู้สึกอยากตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อมาอ่านหนังสือพี่เบนซ์วันละ 1 ตอน เนื่องจากเป็นคนอ่านหนังสือเร็วมาก เลยตั้งกฎกับตัวเองว่าอ่านวันละ 1 ตอนดีกว่า จะได้อ่านนานๆ เหมือนเวลาเราได้กินของที่ชอบ เราจะไม่อยากกินรวดเดียวหมด ต้องค่อยๆ จิบทีละนิด เสพความสุขทีละนิด ซึ่งเล่มนี้บรรยายชีวิตการทำงานของพี่เบนซ์ตั้งแต่เรียนจบจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ชีวิตของเขาในตอนนั้นคงไม่ตลก แต่เขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ตลกมากๆ อ่านแล้วขำท้องแข็ง 555 (แนะนำให้อ่านวันละ 1 ตอนพร้อมเสิร์ชข้อมูล ดูวิดีโอ เกี่ยวกับโฆษณาที่พี่เบนซ์ทำ แล้วคุณจะยิ่งอินเข้าไปใหญ่!)

ต้องอ่านต้นฉบับเพื่อนๆ แทบทุกวัน มันทำให้เราเบื่อที่จะอ่านหนังสือบ้างไหม?
เราอ่านตลอดเวลาเมื่อมีโอกาส เป็นคนที่ชอบพกหนังสือไปไหนมาไหนเพราะจะรู้สึกอุ่นใจ เวลารอหรือไม่รู้จะทำอะไรก็ยังมีหนังสือให้อ่านฆ่าเวลา ขนาดเข้าห้องน้ำยังอ่านเลย (บ้านตัวเองนะ ถ้าในห้างคงโดนด่า 555) แล้วจะยิ่งฟินขึ้นไปอีกถ้าได้หยิบหนังสือมาอ่านตอนเช้าระหว่างจิบช็อกโกแลตร้อนเพลินๆ

การอ่านหนังสือให้อะไรกับชีวิตนักศึกษาจบใหม่บ้าง?
การอ่านเปิดโลกเราให้กว้างขึ้น ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านตัวหนังสือ ยิ่งเราไม่รู้ เรายิ่งต้องอ่าน

ประโยคไหนในเล่มที่ประทับใจจนอยากหยิบปากกาแดงมาวงตัวโตๆ?
“เราอยากอยู่เฉยๆ ก็ต่อเมื่อมีอะไรต้องทำ เช่น เราอยากหยุดยาวๆ สมัยเรียน เราอยากนอนอยู่บ้านในวัยทำงาน แต่พอไม่มีอะไรตรงหน้าให้ได้ทำจริงๆ ความว่างมันก็ไร้ความหมายทันที” (สำหรับผู้อ่านที่อยู่ในวัยกำลังหางาน ประโยคนี้โดนเข้าไป 1 ดอกเต็มๆ เคว้งคว้างสุด ฮืออออ TT)

คราวก่อนเพลงที่คุณแนะนำเรามันเท่มาก ว่าแล้วก็อยากรู้เหมือนกันว่าหนังสือเล่มไหนกันนะจะพิชิตใจอาร์ตไดเรกเตอร์มาดเข้มอย่างคุณ?
วันก่อนครับ / แดทเดย์ (thatday)

ทำไมเล่มนี้ถึงพิชิตใจคุณ?
เป็นเรื่องเล่าแบบไร้เหตุผลตั้งแต่เคยอ่านหนังสือมา ปราศจากตรรกะใดๆ มารองรับ เป็นมิติใหม่ของการอ่านหนังสือ ยิ่งเอาไปเล่นกับเพื่อนก็ยิ่งตลกขึ้นไปอีก ยิ่งถ้าตบมุกได้ ขยี้เป็น ถือว่าเป็นตัวตั้งต้นคณะตลกได้เลย

ปกติอ่านหนังสือช่วงไหน?
ก็อ่านช่วงว่างๆ คิดอะไรไม่ออก

บทเรียนชีวิตครั้งใหม่ที่คุณได้จากการอ่านหนังสือคือ?
อย่างน้อยก็ทำให้รู้ตัวเองว่าอ่านหนังสือเกิน 7 บรรทัด

Quote ไหนในเล่มที่สร้างแรงบันดาลใจในยามยาก?
Ex.

A: วันก่อนครับ B: ทำไมครับ

A: ผมซื้อรถใหม่คันละ 10 ล้านครับ

B: แล้วไงครับ

A: ผมพาเพื่อนๆ มาดูรถของผมครับ

B: เป็นไงต่อครับ

A: พอทุกคนมาถึงที่จอดรถถึงกับอ้าปากค้างงงง!

B: รถสวยมากๆๆๆๆๆๆ

A: รถหายอยากให้ลองอ่าน วันก่อนครับ ให้ครบทุกเล่ม แล้วมันไม่ได้มีแค่ที่ยกตัวอย่างมา ตัวอย่างมันแค่น้ำจิ้ม!

หนังสือเล่มไหนที่สยบหัวใจวิดีโอครีเอเตอร์สาวสวยอย่างคุณ?
MAD ABOUT / รวมนักเขียน

อะไรที่ทำให้เราประทับใจหนังสือเล่มนี้?
เอาจริงๆ เป็นคนไม่ค่อยอ่านหนังสืออะ แต่เล่มนี้ยอมรับว่าซื้อมาเพราะตอนเดินผ่านปกหนังสือดึงดูดที่สุดในแผงแล้ว

วงในบอกเราว่าคุณอดหลับอดนอนตัดวิดีโอบ่อยมาก อยากรู้จังว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือที่ชอบตอนไหนกันนะ?
อาจจะดูเป็นคนจริงจังกับงาน แต่ก็อ่านช่วงคิดงานจริงๆ นะ 555 ชอบหา reference แปลกๆ มาแล้วก็คิดว่า ‘เห้ย…คิดได้ไง’

การอ่านหนังสือมีอิทธิพลกับชีวิตยังไง?
ถ้าเปรียบเทียบว่าเล่นอินเทอร์เน็ตทำให้ชีวิตรวดเร็วปุบปับ หนังสือก็คงเหมือนเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเราสงบลง

Quote ขยี้ใจจากหนังสือคือ…?
ชีวิต is so

simple, that’s why

it’s so complicated.

เจ้าหญิงแห่งวงการผมร่วงอย่างคุณอ่านอะไร?
Gintama / Sorachi Hideaki

เหนือความคาดหมายจริงๆ อะไรกันที่ทำให้คุณชอบหนังสือเล่มนี้?
แค่ชื่อแต่ละตอนก็สะเดิดมากแล้วจริงๆ นี่คือตัวอย่างฟรีแลนซ์แห่งชาติ จ้างอะไรกูก็ทำ ทุกเล่มต้องมีพระเอกทำหน้าเหียกๆ ไม่ก็แคะขี้มูก ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะจมูกบานไปแล้ว แถมต้องลุ้นทุกเล่มว่าคุณกินทามะจะโดนเตะออกจากห้องเช่าเมื่อไหร่ เพราะเจ๊เจ้าของตึกวีนหนักมาก แต่ดูเหมือนนางก็รักกันดีนะงานก็ยุ่ง นอนก็เยอะ

ชอบอ่านหนังสือช่วงเวลาไหน?
ส่วนมากจะเป็นตอนเข้าห้องน้ำกับก่อนนอนนะ เพราะเป็นเวลาที่สามารถหัวเราะเป็นคนบ้าได้โดยไม่อายชาวบ้าน คือเรื่องนี้ตลกจริงอะ อ่านแล้วเป็นบ้า

หนังสือเป็นเหมือนใครในชีวิต?
เหมือนเป็นเพื่อนเราแหละ ถ้าพูดถึงหนังสือแบบกว้างๆ นะ มันมีหลายประเภทมาก แต่เราจะชอบหนังสือภาพ การ์ตูน Shonen Jump หรือหนังสือเด็กของ Jimmy Liao อ่านแล้วรู้สึกหลุดไปอีกโลก เหมือนติดวาร์ป หลายเรื่องอ่านมาตั้งแต่เด็กละ พอจับทีไรก็รู้สึกว่า เอ๊ะ กูนี่เหมือนเดิมเลยนี่หว่า (ขำแห้ง)

ประโยคทรงพลังที่ทำให้ไม่เคยหวั่นแม้วันผมร่วงจากหนังสือเล่มนี้คือ?
“ถึงหน้าตาจะสวย แต่ขนตูดฉันมันไม่สวยตามหน้าหรอกนะจ๊ะ”

ตากล้องสาวสายแฟชั่นอย่างคุณกำลังอ่านอะไรอยู่?
ตอนนี้กำลังอ่าน Modigliani ของ Werner Schmalenbach

อะไรที่ทำให้คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ คว้าเล่มนี้มาเปิดอ่านจริงจัง?
คือปกติแล้วฟางเป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือเพราะไม่สามารถมีสมาธิอยู่กับสิ่งนั้นได้นาน แต่ที่อ่านหนังสือเล่มนี้เพราะสนใจทำทีสิสเกี่ยวกับงานศิลปะและผู้หญิง ซึ่งหนังสือเล่มนี้มีมุมมองแปลกใหม่และแง่คิดดีๆ มากมายที่สามารถเรียนรู้ได้จากศิลปินเจ้าของงาน รวมถึงเทคนิคต่างๆ ของเขา พร้อมกับการเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ไปด้วย

ช่วงไหนในชีวิตที่รู้สึกว่าต้องหยิบหนังสือออกมาอ่านซะแล้ว?
ส่วนใหญ่จะอ่านช่วงที่ต้องเขียนเล่มจบ แต่ถ้าช่วงไหนว่างหรือคิดว่าจะต้องทำงานออกมายังไงก็จะหยิบมาอ่านเป็นแนวทางในการทำงาน

หนังสือเล่มนี้มีอิทธิพลกับชีวิตขนาดไหน?
สำหรับตอนนี้ การอ่านหนังสือเล่มนี้มีอิทธิพลกับชีวิตค่อนข้างมาก เพราะมันเปิดโลกให้เราในระดับนึง ได้เห็นมุมมองที่แตกต่างโดยที่ไม่จำเป็นต้องออกไปเจอ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย สามารถเรียนรู้ได้ด้วยความเข้าใจ

Quote ไหนในเล่มที่อ่านแล้วกรี๊ดในใจ?
“Well might the total absence of pudeur or sexual shame be considered shameless, and in this innocent sense. It’s not wrong to call them amoral.”

สงสัยจังว่าสาวห้าวอย่างคุณจะถูกจริตกับหนังสือแบบไหน?
เพชรพระอุมา / พนมเทียน

อะไรที่ทำให้เราชอบอ่านเพชรพระอุมาชนิดงอมแงม?
โคตรของมหากาพย์ที่ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นตำนาน บอกเลยว่าไม่มีนิยายผจญภัยเรื่องไหนสนุกเท่านี้อีกแล้ว รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากที่อ่านจนจบ 2 รอบ เล่มนึงก็ไม่ใช่น้อยๆ หนาเป็นนิ้ว แล้ว 48 เล่มจบอะคุณคิดดู เห็นหน้าปกเก่าๆ เหมือนจะอ่านยากแต่บอกเลยว่าสำนวนสนุกจนวางไม่ลง ชอบเวลาพรานรพินทร์กับคุณหญิงดารินยียวนกันมาก ตีฝีปากแบบไม่มีใครยอมใคร

เคยสังเกตตัวเองไหมว่าชอบอ่านหนังสือช่วงไหนในชีวิตบ้าง?
อ่านตอนช่วงม.ต้น ติดมาก ละสายตาไม่ได้เลย ขนาดตอนนั้นที่แม่ห้ามนอนเกินสองทุ่มเรายังแอบคลุมโปงใช้ไฟฉายส่องอ่านจนถึงเช้า เพราะอยากรู้ว่าตอนต่อไปเป็นยังไง เล่มต่อไปเป็นยังไง ดีที่เป็นช่วงปิดเทอมไม่งั้นไม่เป็นอันเรียน

หนังสือหล่อหลอมอะไรในตัวคุณ?
การอ่านหล่อหลอมเรามากกว่าสื่ออื่นเพราะตั้งแต่เด็กที่บ้านไม่ค่อยให้ดูทีวี เราเลยได้อ่านหนังสือเยอะมาก อ่านหลากหลายด้วย ทั้งของแม่ ของยาย โตมากับหนังสือเลย ไปห้างก็วิ่งเข้าร้านหนังสือตลอด อ่านเล่มนู้นเล่มนี้รอแม่ซื้อของ หนังสือจึงเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่คอยบอกคอยสอนเรามาตลอด

ประโยคบันดาลใจในวันปั่นต้นฉบับส่งบรรณาธิการ?
“ยามใดที่เห็นพรานใหญ่ยิ้ม จงระลึกไว้เสมอว่าเงื้อมมือมัจจุราชอยู่แค่เอื้อม”

หนังสือในดวงใจของคุณคือเล่มไหน?
H.A.C.K เจาะระบบ ไขรหัสมรณะ / EniGma

ทำไมถึงชอบหนังสือเล่มนี้ ?
สมัยเด็กๆ เป็นคนที่ชอบคอมพิวเตอร์มากครับ แล้วช่วงนั้นอยากลองหาหนังสือนิยายมาอ่าน เลยได้เรื่องนี้มา อ่านเล่มแรกๆ แล้วรู้สึกตื่นเต้นและอยากติดตามจนวางไม่ลง ถึงแม้ว่าหลังๆ เรื่องมันอาจจะเป็น action / sci-fi ไปซะมากกว่า

ในฐานะหนุ่มน้อยน้องเล็กสุดของห้อง a day ตอนนี้ เราสงสัยจังว่าเด็กสมัยนี้ยังอินกับการอ่านหนังสืออยู่ไหม และตัวคุณเองจะหยิบหนังสือมาอ่านช่วงไหนบ้าง?
ก็ต้องยอมรับเลยว่าผมไม่ได้เป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะ ยิ่งหลังๆ มาจะใช้เวลากับสื่ออื่นๆ มากกว่าหนังสือ นิยายชุดนี้ก็เป็นหนึ่งในหนังสือไม่กี่เล่มที่ผมอ่านในช่วงนั้น

การอ่านหนังสือมันให้อะไรกับเราบ้าง?
การอ่านหนังสือโดยเฉพาะหนังสือนิยาย มันเสริมสร้างจินตนาการ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจ มันยิ่งทำให้เราสนุกและตื่นเต้นไปกับมัน

Quote ที่อ่านแล้วอยากบันทึกเก็บไว้คือ?
“บางทีเด็กชายธรรมดาๆ ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร อาจเป็นคนอัจฉริยะที่คุณคาดไม่ถึงก็เป็นได้”

หนังสือเล่มไหนที่สะกดสาวแสบซนคนนี้ให้สงบนิ่งได้อยู่หมัด?
Sum / David Eagleman

อะไรกันที่ทำให้เราชอบหนังสือเล่มนี้?
สารภาพว่าซื้อมาเพราะปกสวยอย่างเดียวเลย เป็นรักแรกพบสุดๆ แต่พออ่านไปแค่บทแรกก็ตกหลุมรักความเป็นไปได้ของโลกหลังความตายที่คนเขียนสร้างขึ้นพออ่านจบเล่มคือรักคนเขียนมากกกกกก ที่สำคัญเราว่าไอ้ความเป็นไปได้นานาของความตายมันเหมือนทำให้เรากลัวโลกหลังความตายน้อยลงนิดหน่อยด้วย เราเลยรักหนังสือเล่มนี้มาก

แบ่งเวลาอ่านหนังสืออย่างไร?
ความที่แต่ละบทมันค่อนข้างสั้นและไม่ต่อเนื่องกัน เราเลยเอามาอ่านเรื่อยๆ เป็นหนังสือไม่กี่เล่มที่เราเอามาเก็บไว้ที่หอ รักมากจริงๆ 555

หนังสือมีอิทธิพลกับชีวิตขนาดไหน?
มีมากกกกกกกกกกกกกก เราชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาไม่รู้จะทำอะไรก็อ่านหนังสือ เหมือนส่วนหนึ่งของเรามันเติบโตผ่านการซึมซับเรื่องราวในหนังสือมาตลอด รู้สึกว่าที่เป็นคนแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ทำอะไรที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะเราชอบอ่านหนังสือนี่แหละ

ประโยคไหนในเล่มที่ชอบจนร้องเห้ย!?
“There are three deaths. The first is when the body ceases to function. The second is when the body is consigned to the grave. The third is that moment, sometime in the future, when your name is spoken for the last time.”