เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่ไทยประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทาง social distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ความสนิทสนมระหว่างผู้คนที่เคยมีจางหายไป เกิดเป็นความเหงาและความท้อแท้กับการไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ แล้วจะสิ้นสุดเมื่อไหร่กัน

แต่ขณะเดียวกันระยะห่างก็ใช่ว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ห่างเหินไป เรายังสามารถพูดคุยและส่งต่อความรักความเข้าใจกันได้ แม้ต้องคำนึงถึงระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตรนี้ก็ตาม

ด้วยเหตุนี้เองศูนย์การค้าในกลุ่มวันสยาม ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม จึงทำโปรเจกต์เพื่อเป็นตัวแทนกำลังใจและความห่วงใย โดยชักชวน 4 ศิลปินที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาและคุ้นเสียงเป็นอย่างดี ได้แก่ โป้–ปิยะ ศาสตรวาหา (โป้ โยคีเพลย์บอย), ป๊อด–ธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์นด็อก), บอย–ตรัย ภูมิรัตน และ นภ พรชำนิ มาร่วมกันสร้างสรรค์และถ่ายทอดบทเพลงความหมายดีๆ อย่าง รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง

หลังจากที่ฟังเพลงนี้จบ เราก็นัดคุยกับหัวเรือใหญ่ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงนี้ ทั้งการแต่งเนื้อร้อง ทำนอง และขับร้อง อย่างโป้ทันที

บทเพลงที่เกิดจากการเว้นระยะห่าง

เพลง รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง หรือ Love Has No Distance เกิดจากสถานการณ์ช่วงนี้ที่ทุกคนต้องเว้นระยะห่างกัน โดยมีความเชื่อว่าความรักชนะทุกอย่าง ไม่ว่ายากลำบากขนาดไหนหรือเจอวิกฤตที่เลวร้ายแค่ไหนพวกเราจะร่วมใจกันก้าวข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้

และเนื่องจากโปรเจกต์นี้ได้คัดเลือกศิลปินที่มาร่วมงานด้วยกันไว้อยู่แล้ว โป้ที่รับหน้าที่แต่งเนื้อร้องและทำนองเป็นหลักจึงต้องนึกไว้เสมอว่าใครจะร้องส่วนไหนบ้าง ซึ่งไม่ใช่ในลักษณะที่แบ่งท่อนให้ทั้ง 4 คนร้อง 4 รอบเท่าๆ กัน แต่เป็นการที่ทุกคนร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวไปจนจบเพลง

ส่วนการตีโจทย์จากบรีฟที่ได้รับ ‘รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง’ นักแต่งเพลงแห่งวงโยคีเพลย์บอยเล่าว่า เขานึกถึงเรื่องความสัมพันธ์ก่อนเป็นอันดับแรก

“ช่วงนี้เราไม่สามารถใกล้ชิดกันได้ แต่จริงๆ แล้วความรักไม่ได้ต้องการระยะทางเลย แค่มีใจให้กันก็จะรู้สึกว่าเราไม่ได้ห่างไกลกัน นั่นคือตัวเพลงหลักๆ ผมมองว่าความรู้สึกหรือความรักมันไม่มีระยะด้วยซ้ำไป แค่ใจเรามีกันอยู่ ระยะพวกนี้ทำอะไรความรักไม่ได้ ความรักนี่แหละจะเป็นแรงให้ทุกคน ทุกอย่าง ทุกเรื่อง ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งในเพลงจะบอกว่าแค่เรามีใจให้กัน เราจะผ่านเรื่องราวปัญหาต่างๆ ไปพร้อมๆ กัน แล้วกลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง”

สำหรับแฟนเพลงอย่างเรา การที่ตัวพ่อแห่งวงการอย่างโป้ ป๊อด บอย และนภ มารวมตัวกันได้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจและสร้างความแปลกใจไม่น้อย ซึ่งโป้เองตอนที่รู้ว่าได้ร่วมงานกับเพื่อนๆ ที่คบกันมาหลายสิบปีก็รู้สึกโล่งใจ เนื่องจากรู้สไตล์การร้องของแต่ละคนเป็นอย่างดี ทำให้ทำงานอย่างสะดวกราบรื่น

“อย่างพี่นภ พี่ป๊อด จะฟรีสไตล์ ปล่อยให้ผมเขียนเนื้อร้องให้เลย ส่วนบอยผมอยากให้เขาเขียนเนื้อในส่วนที่เขาร้องเอง ผมเลยส่งเพลงที่เว้นพาร์ตของบอยไปให้เขาใส่เนื้อร้องของเขาเอง มันเลยออกมาเป็นเพลงที่ได้ฟังกัน เพราะตอนที่ทำเพลงนี้ในใจเราวางไว้หมดแล้วว่าจะเริ่มต้นเล่าเรื่องยังไง โดยใคร แต่ละช่วงเป็นยังไง ช่วงไหนร้องประสานกัน”

เพลงที่ทำหน้าที่เหมือนหนังชีวิตสักเรื่อง

‘เพราะว่ารักแท้ไม่เคยแพ้ระยะใด แค่ในใจเรามีกันก็ยิ่งเหมือนเรายังใกล้ ทุกระยะที่ต่าง… ใจเรายังไม่ห่างกัน’

นี่คือส่วนหนึ่งจากเนื้อเพลงที่โป้เขียนขึ้นมาภายในเวลาเพียง 3 วันจากความอินกับสถานการณ์และความรู้สึกที่ต้องการสื่อสารสิ่งที่อยู่ในใจกับทุกคน

โป้เล่าย้อนให้ฟังว่า ตอนที่ได้รับบรีฟมา เขาใช้วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มแต่งเพลงด้วยการหยิบกีตาร์โปร่งตัวเก่งขึ้นมาเกาหาทำนองก่อนทันที

“ตอนแรกเกาเป็นเพลงบรรเลง เกาไปตามความรู้สึกที่มีต่อตัวเรื่องที่จะต้องเขียนเนื้อเพลงขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นเพลงเกากีตาร์คลอๆ เบาๆ ไป เสร็จแล้วผมให้คนในวง คือสุทัศน์ เพชรมี มือเบสวงโยคีเพลย์บอย มาดูภาพรวมอีกที เขาก็เสนอว่าน่าจะใส่ส่วนของออร์เคสตราเข้าไปด้วย เขาก็เลยรับหน้าที่ไปทำช่วงเครื่องสายนี้มาให้ ดังนั้นเพลงที่ออกมาเลยมีลักษณะของการเล่าเรื่อง และเหมือนว่าคุณกำลังเปิดหนังสืออ่านหรือเข้าไปดูหนังสักเรื่อง เป็นกึ่งสกอร์นิดๆ

เพลงจึงมีความดราม่า บอกเล่าความรู้สึกผ่านเรื่องราวออกไป โดยมีพวกผม 4 คนเป็นคนถ่ายทอด ซึ่งผมเริ่มร้องก่อนและคิดไว้ว่าพอถึงท่อนนี้พูดหัวข้อนี้ออกไป อีกคนจะพูดกลับมาว่ายังไง จากนั้นก็เป็นส่วนของบอยที่เขาแต่งเอง ส่วนของพี่นภผมอยากได้เพลงที่เขาร้องแล้วดังเปรี้ยงปร้างอย่างเพลง ฤดูที่แตกต่าง เพราะเนื้อหาเข้ากับช่วงนี้ คือมันก็เป็นอีกหนึ่งฤดูที่เราต้องเจอเรื่องราวอะไรสักอย่าง ซึ่งเดี๋ยวพวกเราก็ผ่านไปได้ ผมเลยแต่งช่วงของพี่นภให้มีเรื่องเกี่ยวกับฤดูที่แตกต่างเข้ามาด้วย จนมาถึงพี่ป๊อดที่เป็นคนพูดสรุปรวมให้คนมีกำลังใจขึ้นและถ่ายทอดเรื่องราวจนจบเพลง”

ตอนที่แต่งเพลงนี้คาดหวังให้คนฟังรู้สึกยังไงบ้าง เราตั้งคำถาม

“ตอนแรกที่แต่งเพลงนี้ผมไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าต้องออกมาเป็นยังไง พอมันออกมาก็คล้ายๆ กับมีคนเล่นกีตาร์ง่ายๆ และเล่าเรื่องราวที่เขาอยากพูดกับทุกคนออกไป เป็นลักษณะเพลงที่เข้าถึงง่าย ฟังแล้วรู้สึกเหมือนมีเพื่อนมาหาแล้วร้องเพลงง่ายๆ ให้คุณฟัง ซึ่งในความง่ายนั้นมีบรรยากาศของออร์เคสตราร่วมด้วย มันเลยกลายเป็นเหมือนการดูหนังสักเรื่องจนจบ เป็นหนังเกี่ยวกับชีวิตช่วงนี้ที่ทุกคนต้องเจอ มันอาจจะยากลำบาก ไม่สะดวกสบายเหมือนก่อน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจบแล้วจะเป็นยังไงต่อ แต่พอดูจบแล้วผมคิดว่าคนฟังน่าจะได้แง่คิดหรือพลังชีวิตบางอย่างที่จะต่อสู้ต่อไป”

ห่างเพื่อจะได้ใกล้ชิดกันอีกครั้ง

เนื่องจากช่วงเวลาที่โป้และศิลปินอีก 3 คนทำงานร่วมกันเป็นช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรการ social distancing แล้ว การทำงาน การบันทึกเสียงในสตูดิโอ และการถ่ายมิวสิกวิดีโอ จึงต้องวางแผนกันอย่างถี่ถ้วน ถือเป็นการทำงานที่ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะทั้งพวกเขาและทีมงานเองก็ไม่อยากให้ใครต้องออกมานอกบ้านบ่อย

แม้ฟังดูเป็นช่วงเวลาที่เคร่งเครียดและลำบากกว่าปกติ แต่โป้เล่าว่าบรรยากาศการทำงานของเขาและเพื่อนๆ ศิลปินต่างเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากโปรเจกต์ ‘รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง’ เป็นการทำงานร่วมกันของทั้ง 4 คนเป็นครั้งแรก

“เนื่องจากพวกเราคุ้นเคยกันมาก ทุกคนจะรู้ว่าแต่ละคนถนัดด้านไหนยังไง เหมือนทุกคนมาประจำที่ของตัวเองในวันที่บันทึกเสียงเลย อย่างพี่นภพออัดในส่วนของเขาเสร็จก็นั่งประจำการควบคุมการร้อง ช่วยดูตอนบันทึกเสียง และตอนอัดก็ช่วยคุมเสียงร้องให้ทุกคน ส่วนพี่ป๊อดคอยดูภาพรวม และบอยรับผิดชอบในส่วนของเขาได้เป็นอย่างดี มีอีกเรื่องหนึ่งคือทั้ง 4 คนไม่เคยถ่ายรูปพร้อมกันเลย งานนี้จึงเป็นโอกาสและความทรงจำที่ดี”

นอกจากเพลง รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง จะเป็นโปรเจกต์ที่ทำให้โป้ได้ทำงานกับเพื่อนๆ อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว เขายังบอกอีกว่านี่คือสิ่งที่เขาตั้งใจอยากทำอยู่แล้วด้วย

“ผมหาโอกาสทำอะไรเพื่อสังคมและส่วนรวมอยู่แล้ว อยู่ดีๆ ก็ได้โอกาสที่ดีมากในการทำหน้าที่โดยตรงของเรา คือการเป็นนักดนตรี ทำเพลงออกมาสักเพลงหนึ่งให้สังคม เพื่อเป็นการตอบแทนคนที่ให้ความรักพวกเรา เราเลยทำอย่างเต็มที่ ทำสุดความสามารถ”

และเมื่อเราตั้งคำถามถึงความคาดหวังที่มีต่อเพลงนี้ โป้ในฐานะผู้สร้างสรรค์และขับร้องก็ตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความหวัง

“อย่างน้อยๆ อยากให้มันสร้างพลังใจให้กับใครก็ได้ที่ฟัง สร้างขวัญกำลังใจ และทำให้ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเหมือนๆ กันที่จะก้าวข้ามผ่านทุกปัญหาไปให้ได้ อย่างที่เพลงบอกว่าความรักชนะทุกอย่าง แม้แต่ระยะห่างสองเมตรอย่างที่ว่า และผมก็หวังใจให้คนฟังเชื่อมั่นในความรักที่คุณมีต่อทุกคน เชื่อมั่นในความรักที่มีด้วยกัน และเอามาใช้เป็นพลังใจในการต่อสู้ช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”

ขณะเดียวกันในช่วง social distancing ที่เขาต้องกักตัวอยู่บ้านและทำงานผ่านโซเชียลมีเดีย นักร้อง นักดนตรี และคนทำเพลง อย่างโป้ก็ได้เรียนรู้และทบทวนตนเองในแง่มุมที่ไม่เคยสังเกตมาก่อน

“ผมพบว่าทุกเรื่องมี 2 ด้าน อย่างกรณีนี้ถ้ามองอีกแง่มลพิษหายไปเยอะมาก ทำให้โลกยังหายใจหายคอได้อยู่ อีกเรื่องคือปกติคนเราเคยชินกับการเข้าสังคมมาก แต่บางครั้งการได้อยู่คนเดียวบ้างมันทำให้ได้พิจารณาตัวเอง ได้คิดในอีกหลายๆ มิติ หลายๆ แง่มุม เพื่อใช้ปรับปรุงและพัฒนาตัวเองอีกครั้ง ส่วนการที่เราต้องแยกกันสักพัก เราทำเพื่อคนที่เรารัก อย่างผู้ใหญ่ผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานสู้คนหนุ่มสาวไม่ได้พวกเขาเป็นกลุ่มเสี่ยง ดังนั้นการที่เราต้องห่างเขาก่อนไม่ใช่เพราะเราไม่รักเขา แต่เป็นเพราะเรารักเขามาก ฉะนั้นให้ทุกคนนึกไว้เสมอว่าเราทำเพื่ออะไร ทั้งยังเป็นผลดีกับสังคมโดยรวมด้วย”

เหมือนกับเนื้อเพลง รักแท้ไม่แพ้ระยะห่าง ตอนท้ายที่บอกว่า เพราะว่ารักแท้ ที่ฉันรักเธอเท่าไร จะไม่มีวันพ่ายแพ้ เราจะก้าวข้ามไปได้ ทุกปัญหาทุกอย่าง เราจะสู้ด้วยกัน จนมันผ่านไป…

CREATIVE

LIFE

STYLE

VIDEO

PODCAST

SERIES