Slam Dunk อัจฉริยะสร้างได้ในแบบการ์ตูนญี่ปุ่น

คนๆ หนึ่งซึ่งไม่มีใครให้ค่าและอยู่นอกสายตาของสังคม แต่เขาก็สามารถพัฒนาตนเองจนได้รับการยอมรับและยกย่อง แล้วยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นได้ในการสู้ต่อไปเพื่อความฝัน

คนๆ นั้นเป็นฮีโรจากความพยายามของตนเอง

แล้ว ‘ฮีโร’ ในลักษณะนี้ก็ได้รับการพูดถึงในการ์ตูนและภาพยนตร์มาตลอด ในเฉพาะระยะหลังที่โลกเริ่มโอบกอดความแตกต่างจากมาตรฐานในอดีต

ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์ เก่ง หรือว่าหล่อขั้นเทพ ก็สามารถเป็นฮีโรในดวงใจได้

แล้วคาแรกเตอร์ที่กำลังจะพูดถึง ก็เป็นฮีโรในลักษณะนี้

ริ่มต้นที่ความรัก พยายามด้วยความชอบ ไปต่อด้วยความตั้งใจ

Hanamichi Sakuragi เป็นตัวละครหลักของหนังสือการ์ตูนเรื่อง ‘Slam Dunk’ (แสลม ดังก์) ผลงานของนักวาดการ์ตูนหน้าใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Takehiko Inoue’

สแลม ดังก์ ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ ‘Weekly Shonen Jump’ โดยสำนักพิมพ์ Shueisha ในปี 1990 การ์ตูนแต่ละเรื่องที่ตีพิมพ์ใน Weekly Shonen Jump ล้วนแล้วแต่มีเนื้อหาสนุกสนานและน่าติดตาม เนื้อเรื่องมักเกี่ยวกับการต่อสู้หรือผจญภัย เพื่อเอาใจกลุ่มเป้าหมายหลักซึ่งเป็นผู้ชายในช่วงวัยรุ่น หนึ่งในนั้นก็คือ การ์ตูนระดับตำนานของญี่ปุ่นเรื่อง ‘Dragon Ball’ 

และด้วยความนิยมอย่างล้มหลาม จึงได้มีการรวมเล่มการ์ตูนเรื่อง ‘สแลม ดังก์’ โดยมียอดพิมพ์รวมถึง 170,000,000 เล่ม ภายหลังได้รับการสร้างเป็นการ์ตูนแอนิเมชันฉายทางโทรทัศน์ โดยบริษัท Toei Animation ซึ่งเป็นสตูดิโอชั้นนำของญี่ปุ่น  

สแลม ดังก์ทำลายสถิติของการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน และเป็นส่วนสำคัญที่สร้างความนิยมของการ์ตูนญี่ปุ่นในหลายประเทศ แฟนการ์ตูนเรื่องสแลม ดังก์ไม่ได้มีเพียงแค่ผู้ชายเท่านั้น แต่ยังโดนใจนักอ่านผู้หญิงด้วย

สแลม ดังก์ บอกเล่าเรื่องราวของน้องใหม่ชั้นม.4 ในโรงเรียนมัธยมปลาย Shohoku อย่าง ‘ซากุรางิ’ ซึ่งเป็นที่รู้จักเกือบทั่วทั้งโรงเรียนจากผมที่ย้อมเป็นสีแดงทั่วทั้งศีรษะ ประกอบกับรูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกโผงผาง แล้วยังมีชื่อเสียงในเรื่องความ ‘เกเร’ มาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยมต้น นักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียนโชโฮคุ จึงขยาดและไม่อยากที่จะเข้าใกล้ ‘ซากุรางิ’ เลย

แต่แล้วเส้นทางชีวิตของซากุรางิก็เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อได้พบกับนักเรียนชั้นเดียวกันที่มีชื่อว่า ‘Haruko Akagi’ 

‘รักแรกพบ’ ทำให้ซากุรางิหันมาสนใจกีฬาบาสเกตบอล แล้วฮารุโกะ ผู้น่ารัก ก็เป็นแรงบันดาลใจให้ซากุรางิตั้งมั่นที่จะดังก์บาสเกตบอลให้ได้

จากเด็กเกเรที่ชอบทะเลาะวิวาท กลายเป็นผู้ชายตลกและขี้อาย ซึ่งยอมทำทุกอย่างเพื่อความรัก

แล้วเรื่องราวการเข้าสู่วงการกีฬาบาสเกตบอลของซากุรางิ ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น…

แต่กัปตันชมรมบาสเกตบอล ผู้เป็นพี่ชายคนเดียวของฮารุโกะ กลับไม่ยอมให้ซากุรางิเข้าร่วมชมรม ซากุรางิจึงต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้รับการยอมรับ ซากุรางิมาทำความสะอาดห้องล็อกเกอร์ของชมรมจนสะอาดเอี่ยมอ่องตั้งแต่เช้า แล้วยังนั่งเช็ดฝุ่นลูกบาสเกตบอลหลายสิบลูกตลอดทั้งคืน พอกัปตันอาคากิมองเห็นความแน่วแน่และตั้งใจ จึงยอมให้ซากุรางิเข้าร่วมเป็นน้องใหม่ของชมรม

มุกตลกที่สื่อสารกับทุกคน

แต่ละตอนของการ์ตูนเรื่อง ‘สแลม ดังก์’ ล้วนเต็มไปด้วยอารมณ์ขันของซากุรางิ 

ถึงแม้จะดูขึงขัง แต่ซากุรางิก็ปล่อยมุกตลกผสมความเฉิ่มและเชยให้ได้ขำตลอดเวลา อย่างตอนที่พบกัปตันทีมบาสเกตบอลซึ่งมีรูปร่างใหญ่ยักษ์เป็นครั้งแรก ซากุรางิก็เรียกกัปตันว่า ‘กอริลลา’ แต่พอรู้ว่ากัปตันเป็นพี่ชายของฮารุโกะ ก็รีบเรียกด้วยความยกย่องว่า ‘คุณพี่ชาย’ แล้วเพื่อให้กัปตันอาคากิประทับใจ ซากุรางิก็นำของขวัญกล่องใหญ่ไปส่งให้ที่ห้องเรียน 

และเมื่อเปิดกล่องของขวัญออกมา…

กัปตันอาคากิก็พบว่าของขวัญในกล่องคือ ‘กล้วยหอม’!

ของโปรดของลิงกอริลลานั่นเอง…..

การตลาดสร้างชาติ

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าหนังสือและภาพยนตร์การ์ตูน สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับนักอ่านได้ โดยเฉพาะการ์ตูนที่มีเนื้อเรื่องเหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต

การถูกมองเป็นคนนอก เป็นคนแปลก ไม่เหมือนกับมาตรฐานของสังคม และไม่เป็นที่รัก 

การต่อสู้เพื่อความรัก การพิสูจน์ตัวเองและการลบคำสบประมาท จึงเป็นธีมหลักในการ์ตูนหลายเรื่อง

ในประเทศญี่ปุ่น การปฏิบัติตนให้สอดคล้องกลมเกลียวกับคนรอบข้าง เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมาโดยตลอด การแสดงออกตัวตนอย่างโผงผางหรือผิดแปลกมากเกินไป เป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง

ซากุรางิเป็นตัวแทนของบุคลิกแบบ ‘นักเลง’ ซึ่งถูกพูดถึงบ่อยครั้งในการ์ตูนญี่ปุ่นช่วงเวลานั้น ตัวละครที่มีบุคลิกดังกล่าว มักเป็นที่ติเตียนของสังคมรอบข้าง แต่หลายครั้งพวกเขาลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่างที่ตนเองยึดมั่น 

ในกรณีของสแลม ดังก์ เป็นความมุ่งมั่นเพื่อคนที่รัก และความอดทนที่จะพัฒนาตนเองให้เป็นตามเป้าหมาย ซากุรางิเริ่มต้นฝึกบาสเกตบอล เพื่อทำให้ฮารุโกะประทับใจ และต้องการโชว์ฝีมือเพื่อให้ดูเท่ในสายตาของฮารุโกะ

จากคนที่เลี้ยงลูกบาสเกตบอลไม่เป็นเลยแม้แต่น้อย ซากุรางิก็ฝึกฝนการกระโดดลอยตัวดังก์ที่แป้นบาส แม้ว่าในช่วงเริ่มต้นรู้สึกท้อแท้ใจ

แต่ซากุรางิก็นึกถึงใบหน้าและกำลังใจจากฮารุโกะ จึงลุกขึ้นมาฝึกซ้อมต่ออย่างไม่ลดละ

จากเด็กใหม่ที่ไม่เข้าใจเกมรุกและเกมรับ ซากุรางิก็พยายามสังเกตและคิดหาวิธีทำแต้มให้ได้ 

จากเด็กเกเรที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ กลายเป็นขวัญใจนักอ่านและคอกีฬาบาสเกตบอลทั้งในและนอกจอ 

ซากุรางิยังมีความมานะบากบั่นที่จะพิสูจน์ความเป็น ‘อัจฉริยะทางบาสเกตบอล’ ดังเช่นสมญานามที่ตั้งให้กับตัวเอง

ซากุรางิไม่ได้รูปหล่อแบบพระเอกละคร แต่เป็นคนเก่งและมีความพยายามในความคิดของฮารุโกะ แล้วความขี้อายและเป็นกันเองของซากุรางิ ยังทำให้ฮารุโกะเปิดใจพูดคุยด้วยในทุกๆ เรื่อง

ซากุรางิเป็นตัวอย่างของ ‘Anti-hero’ ซึ่งไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด และยังดูตรงกันข้ามกับบุคลิกภาพแบบพระเอกที่เราคุ้นเคย แต่ซากุรางิก็เป็น ‘ฮีโร’ ชนะใจผู้คนได้

กล่าวได้ว่าการ์ตูนเรื่อง ‘สแลม ดังก์’ สร้างพลังทางบวกให้กับผู้อ่านทั่วประเทศญี่ปุ่น ช่วยสร้างฐานความนิยมในกีฬาบาสเกตบอล และเป็นแรงให้คนที่อยู่นอกสายตา ลุกขึ้นมาพยายามทำสิ่งดีๆ 

อิทธิพลของสแลม ดังก์ ที่มีต่อผู้อ่านมีมากเป็นประวัติการณ์ ทำลายสถิติการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมา

อาจารย์อิโนะอุเอะ ผู้สร้างตำนานการ์ตูนเรื่องสแลม ดังก์ จึงได้รับรางวัล Shogukan Manga ประเภทการ์ตูนสำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติของแวดวงการ์ตูนญี่ปุ่น ปัจจุบันยังมีจำนวนผู้ติดตามอยู่ทั่วทุกที่ ตอนนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์การ์ตูนที่ฉายทาง Netflix

แล้วไม่ว่าจะกดเข้าไปดูกี่ครั้ง ซากุรางิและสแลม ดังก์ ก็ทำให้รู้สึกว่า ‘อัจฉริยะสร้างได้’ อย่างแท้จริง!

AUTHOR