ในวันที่ชีวิตเดินมาถึงทางแยก แต่ไม่รู้จะเดินต่อทางไหน
ความคิดเต็มไปด้วยความสับสน จิตใจมีแต่ความไหวหวั่น จากนี้ไปจะทำเช่นไร แล้วอนาคตจะดำเนินไปทางไหน
ใครที่มีความรู้สึกแบบนี้ ไม่ต้องกังวลไป ไม่ได้มีเราเพียงลำพังที่เดินมาถึงจุดนี้ ผู้คนมากมายต่างก็เผชิญเรื่องราวลักษณะนี้กันมาแล้ว หลายคนหยุดคิด บางคนไปต่อ แล้วยังมีอีกไม่น้อยที่ไม่รู้จะทำเช่นไร วันนี้เราเลยอยากแนะนำให้รู้จักกับคุณโรมิ อิการาชิ เชฟขนมหวานเจ้าของแบรนด์ Romi-Unie ของญี่ปุ่นก็คิดหนักกับทางแยกชีวิตมาแล้ว
จุดเริ่มต้นค้นหาตัวเองคือการเดินออกจากคอมฟอร์ตโซน

ครั้งหนึ่งคุณโรมิเป็นเหมือนกับเราๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับชีวิต
แม้ว่าคุณโรมิจะเรียนมาทางด้านขนมหวาน และสนใจในศาสตร์นี้อย่างลึกซึ้ง แต่การตัดสินใจเลือกเส้นทางในอนาคตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ช่วงเวลานั้นการประกอบอาชีพเดียวไปตลอดชีวิต หรือทำงานที่บริษัทแห่งเดียวตลอดเส้นทางการทำงาน เป็นสิ่งพึงกระทำในญี่ปุ่น
ความรู้สึกของคุณโรมิคงคล้ายกับเราๆ ที่สับสนหนทางไป
เหมือนจะมีทางเลือก แต่ก็พบเจอทางตัน แล้วหลายครั้งยังเหมือนเขาวงกต
วันหนึ่งคุณโรมิจึงตัดสินใจออกเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง แล้วจุดหมายปลายทางของคุณโรมิก็คือ ‘ฝรั่งเศส’ ประเทศต้นตำรับขนมที่คุณโรมิหลงใหล
ถ้าพูดถึง ‘ฝรั่งเศส’ คนส่วนใหญ่มักนึกถึงเมืองหลวงทางด้านศิลปวัฒนธรรมของโลกอย่าง ‘กรุงปารีส’ เมืองที่เป็นฝันของนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก แต่คุณโรมิกลับเลือกที่จะตามหาตัวตนในแถบ ‘อัลซาส’ (Alsace) แทน
แคว้นอัลซาสตั้งอยู่ห่างจากความหอมหวานของกรุงปารีสไปหลายร้อยกิโลเมตร พื้นที่ส่วนหนึ่งติดกับประเทศเยอรมนี อัลซาสเป็นแคว้นใหญ่ที่เป็นที่รู้จักเรื่องวัฒนธรรมผสมระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมัน อาหารจากแถบอัลซาสขึ้นชื่อว่าอร่อย แต่ขนมนั้นรองลงมา เลยไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วคุณโรมิตัดสินใจไปแคว้นอัลซาสเพราะเหตุใด
แต่ที่แน่ๆ คือวันเวลาที่แคว้นแห่งนี้ทำให้คุณโรมิค้นพบเส้นทางของตัวเอง จนพูดได้ว่าการปลีกตัวออกจากคอมฟอร์ตโซนในครั้งนี้ ทำให้คุณโรมิเกิดไอเดียใหม่ในชีวิต
มุ่งหน้าสู่ความฝัน

พอรู้แล้วว่าจะทำอะไรต่อไปในชีวิต คุณโรมิก็มุ่งมั่นทำมันให้เป็นรูปเป็นร่าง แต่เส้นทางสู่ความฝันก็ใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย
คุณโรมิผสมผสานวิธีทำขนมหวานเข้ากับความน่ารักสไตล์มินิมอลญี่ปุ่น ผ่านการลองผิดลองถูกหลายครั้ง ท้ายสุดออกมาเป็น ‘แยม’ ในขวดแก้วขนาดมินิที่เลื่องลือเรื่องความอร่อย
แค่ตักชิมเพียงคำเดียวก็ฟินจนไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว
ในเวลาไม่นาน ร้านแยมเล็กๆ ในกรุงโตเกียวของคุณโรมิก็ติดอันดับร้านขนมสุดฮิตของญี่ปุ่น แต่ละวันมีผู้คนหลั่งไหลมาซื้อแยมของคุณโรมิไม่ขาดสาย ความหอมหวานตามธรรมชาติของผลไม้ที่กวนเข้ากับน้ำตาลทรายขาวละเอียดในแบบคุณโรมิ เป็นส่วนหนึ่งของกระแส ‘แยมฟีเวอร์’ จนร้านหนังสือทั่วญี่ปุ่นเต็มไปด้วยหนังสือสอนทำแยม และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้น คือหนังสือของคุณโรมิ
ฝีมือขั้นเทพ

แม้จะดูไม่ยาก แต่ศาสตร์การกวนแยมต้องใช้ความสมดุลในทุกๆ องค์ประกอบ ตั้งแต่ปริมาณผลไม้กับน้ำตาล ความร้อนของเตา ภาชนะที่ใช้ และความเร็วในการคนส่วนผสม
หลังจากที่ลองกวนแยมในแบบคุณโรมิดู เราก็ต้องปาดเหงื่อ
ถึงจะทำตามสูตรทุกอย่าง แต่รายละเอียดมีความสำคัญมากกว่าที่คิด ต้องหั่นผลไม้ให้ชิ้นเท่ากันมากกว่านี้ จะได้สุกเป็นแยมพร้อมๆ กัน แล้วยังต้องใช้กระทะทองเหลืองเนื้อหนา เพื่อให้ความร้อนสม่ำเสมอตลอดเวลา เวลาคนผลไม้ ห้ามใจร้อนและห้ามรีบ ต้องค่อยๆ ใช้พายไม้คนช้าๆ และละเมียดละไมให้มากกว่านี้
แยมของเราเลยกลายเป็นผลไม้เชื่อมในน้ำตาล แทนที่จะเป็นแยมผลไม้หอมหวานแบบคุณโรมิ
เรื่องกวนแยมต้องยกนิ้วให้คุณโรมิจริงๆ
ทุกรายละเอียดคือแบรนดิง

มีคำกล่าวว่า ‘แบรนดิงที่ดี คือการไม่ต้องทำแบรนดิงใดๆ’
แล้วแบรนด์ Romi-Unie ก็เป็นตัวอย่างของแนวคิดนี้ได้เป็นอย่างดี การหยอดความเป็นตัวเองลงในทุกอณูของแบรนด์อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ ‘Romi-Unie’ มีความเด่นชัดในเชิงแบรนดิงโดยไม่ต้องฝืน ตั้งแต่วิธีการกวนแยม รสชาติต่างๆ แพ็กเกจจิง ไปจนถึงการตกแต่งร้าน ทั้งหมดล้วนมาจากความคิวท์ในตัวของคุณโรมิ
ถ้าเดาไม่ผิด ฝาสีทองแดงของขวดแยมมาจากสีกระทะกวนแยมของคุณโรมิ ส่วนแพ็กเกจจิงรูปบ้านน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากบรรยากาศอบอุ่นในร้านที่ตกแต่งสไตล์มินิมอล
คุณโรมิขยายไลน์สินค้าจากแยมสู่คาราเมลสำหรับทาขนมปัง หรือทานกับไอศกรีม แล้วยังมีขนมอบชิ้นเล็กอย่างคุกกี้และชอร์ตเบรดอร่อยๆ บางเดือนมีการจัดคลาสสอนทำแยมและขนมอบแบบเดียวกับที่ขายในร้าน โดยสมาชิกในทีมของคุณโรมิเป็นผู้สอนเอง จะได้ถ่ายทอดแบรนด์และตัวตนของคุณโรมิให้แก่ผู้เรียนได้อย่างชัดเจน แล้วถ้าโอกาสเหมาะ คุณโรมิยังไปเปิดร้านพ็อปอัปเครปสไตล์ฝรั่งเศสอยู่บ่อยๆ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับอาณาจักรแบรนด์ Romi-Unie ที่น่าหลงใหลจนอดใจไว้ไม่ได้
ปรัชญาการทำขนมและแรงบันดาลใจสไตล์มินิมอล
นอกจากกระแส ‘แยมฟีเวอร์’ แล้ว คุณโรมิยังมีบทบาทสำคัญในแวดวงเบเกอรีญี่ปุ่น
คุณโรมิเป็นวิทยากรรับเชิญให้กับหลายที่ในเรื่องการทำขนม แล้วยังเขียนคอลัมน์ให้กับนิตยสารขนมญี่ปุ่นอยู่หลายปี ร้านแยมแห่งใหม่ของคุณโรมิเป็นส่วนหนึ่งของคอมมิวนิตีคาเฟ่และของหวานแห่งใหม่ในเมืองคามากุระของญี่ปุ่น
สิ่งที่คุณโรมิเน้นย้ำกับแฟนๆ อยู่บ่อยๆ คือ ‘ปรัชญาในการทำขนม’ จากมุมมองของคุณโรมิเอง
‘ไม่จำเป็นต้องทำขนมยากๆ แต่ต้องทำให้อร่อย’
‘วิธีทำไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ต้องชัดเจน’
‘ครั้งแรกอาจทำพลาด แต่ลองใหม่แล้วจะทำได้’
ปรัชญาการทำขนมแบบคุณโรมิ สร้างให้เกิดแรงบันดาลใจกับผู้หลงใหลในความมินิมอลของเบเกอรีญี่ปุ่น หลายคนกอดหนังสือทำขนมของคุณโรมิพร้อมกับความฝันที่จะเป็นเชฟ บางคนนั่งรถไฟไปเมืองคามากุระเพื่อสัมผัสความอบอุ่นจริงใจในร้านของคุณโรมิ แล้วยังมีอีกมากที่ลุกขึ้นมาทำอะไรกับชีวิตด้วยกำลังใจเปี่ยมล้น
‘บางทีชีวิตไม่ต้องยากก็ได้ แค่ทำให้ดีก็พอ’ เหมือนว่าคุณโรมิและแบรนด์ของเธอกำลังบอกกับเราอย่างนี้
แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นมาจากทางแยกของชีวิตและความกล้าเดินออกจากคอมฟอร์ตโซนของเชพขนมหวานที่มีชื่อว่า ‘โรมิ อิการาชิ’!