กริช มัติโก : ผู้สร้างสรรค์ ‘เต้าข่าวเดลี่’ คอนเทนต์ออนไลน์ของเด็กผีที่เด็กหงส์กดไลก์มากที่สุด

ในช่วงที่ผลงานของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกต่ำจนแฟนแมนยูฯ แทบไม่อยากเจอหน้าเพื่อน หรือพูดคุยเรื่องฟุตบอล เต้าข่าวเดลี่ คอนเทนต์ออนไลน์ที่จัดหน้าในรูปโฉมของหนังสือพิมพ์ กลับได้รับความนิยมสวนทาง

สำหรับคนที่ไม่เคยดูบอล เต้าข่าวเดลี่ คือส่วนหนึ่งของ www.devilmag.com ฟรีแมกกาซีนออนไลน์ที่นำเสนอข่าวคราวของทีมผีแดงล้วนๆ โดยมีทีมงานเบื้องหลังเป็นแฟนผีแดง 2 ชีวิต ได้แก่ กริช มัติโก และ อานนท์ คำนุชนารถ

จุดเริ่มต้นของเว็บไซต์ Devil Mag มาจากวันที่กริชได้รับโจทย์จากอาจารย์สมัยเรียนวิชาออกแบบสิ่งพิมพ์ให้ทำแมกกาซีนออนไลน์ ด้วยความที่บ้าบอลและอุทิศวิญญาณให้ปีศาจแดงมายาวนาน เขาจึงเริ่มทำเว็บไซต์นี้เรื่อยมาแม้จะพ้นจากสถานะนักศึกษาแล้วก็ตาม โดย เต้าข่าวเดลี่ ซึ่งกริชทำสนุกๆ ลงเว็บบอร์ด Pantip มาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ก็ย้ายมาเป็นส่วนหนึ่งของเว็บ และกลายเป็นเนื้อหาส่วนที่เป็นขวัญใจแฟนบอลทั้งขาจรและขาประจำ

จากเว็บที่ทำส่งอาจารย์ จากเนื้อหาทำเอาสนุกๆ ในเว็บบอร์ด วันนี้มีผู้ติดตามเพจของ Devil Mag หลักแสนคน และ เต้าข่าวเดลี่ กลายเป็นคอลัมน์ยอดฮิตที่มียอดวิวในสัปดาห์ที่แมนยูฯ
ลงเตะว่ากันที่หลายแสน

ส่วนเบื้องหลังความฮาที่อยู่บนคราบน้ำตาของแฟนผีแดงเป็นอย่างไร บรรทัดถัดไปมีคำตอบ-ซึ่งอาจบาดใจแฟนแมนยูฯ หลายคน

คุณติดตามแมนยูฯ มานานแค่ไหนแล้ว

เชียร์ตั้งแต่ปี 97 ยุคก่อนได้ทริปเปิลแชมป์ปีนึง เราได้ยินชื่อทีมนี้ตั้งแต่เด็กๆ และเป็นทีมที่ช่วงนั้นถ่ายทอดสดบ่อยที่สุด ถ้าผมเกิดปี 89 ผมก็คงเชียร์ลิเวอร์พูล โชคดีที่เกิดไม่ทัน
ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงเศร้า

ทำไมเลือกที่จะทำเต้าข่าวเดลี่จิกกัดทีมที่ตัวเองเชียร์

ส่วนตัวผมเป็นคนสนุกอยู่แล้ว ดูบอลไม่คิดมาก ฟุตบอลสำหรับผมเหมือนความบันเทิง ดูเอาสนุก มันก็แค่นั้น เราเป็นคนชอบจิกกัดคนนั้นคนนี้ มีแฟนเราก็ชอบแซวแฟนเรา ขาใหญ่บ้าง แขนโตบ้าง (หัวเราะ)

ผมแซวแมนยูฯ จนบางคนคิดว่าผมไม่ใช่แฟนแมนยูฯ อันแรกๆ ที่ทำจะมีคนบอกว่านี่แหละแฟนลิเวอร์พูลเนียนมาด่า ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจนะ คนก็มีสิทธ์สงสัย เพราะแฟนแมนยูฯ จะมาแซวแฟนตัวเองทำไม

เป็นคนชอบแซวทำไมไม่แซวลิเวอร์พูล แต่กลับมาแซวทีมตัวเอง

ผมว่าถ้าเป็นแฟนแมนยูฯ ทำเราจะรู้จริง พอเรารู้จริงจะแซวอะไรก็ไม่ยาก เราเข้าใจอารมณ์หลังเกม เรารู้จักนักเตะ เรารู้ว่าเราจะแซวประมาณไหนคนถึงจะไม่โกรธ เพราะว่าพวกเราหัวอกเดียวกัน คือแซวเพราะรัก

แซวเพราะรักกับด่าเพราะเกลียดต่างกันแน่นอน แล้วผมเชื่อว่าคนอ่านส่วนใหญ่จะสัมผัสได้และเข้าใจนะ แต่พวกที่ไม่เข้าใจส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่เพิ่งมาติดตามหลังๆ ว่าทำไมต้องมาแซว รักทีมนี้ก็ต้องเชียร์ทีมนี้สิ ต้องให้กำลังใจนักเตะสิ แต่เราก็ชินแล้ว ผมเจออย่างนี้มา 10 ปี

แล้วทำไมไม่ให้กำลังใจทีมที่รักอย่างที่เขาว่า

มันคนละอย่างกัน รักเหมือนกัน แต่อาจจะแสดงออกไม่เหมือนกัน เราต้องแตกต่าง

ดูบอลมานาน เห็นสัจธรรมอะไรของโลกฟุตบอลบ้างไหม

มันไม่มีอะไรแน่นอน อย่างปีที่แล้วเลสเตอร์ฯ ก็ทำให้เห็นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ แบล็คเบิร์นฯ ก็ยังเคยได้แชมป์ มันก็ดีนะ เป็นสีสัน ผมไม่ค่อยอยากให้อินกับมันมาก มองให้เป็นความสนุกดีกว่า แต่ก่อนคนดูเพราะเชียร์ทีมรัก อยากเห็นทีมที่เราเชียร์ประสบความสำเร็จ แต่ยุคนี้หลายคนชียร์ให้ชนะเพื่อที่จะไปล้ออีกทีมหนึ่ง เชียร์ให้ไม่แพ้เพื่อจะได้ไม่โดนล้อ มันแยกไม่ออกว่าเราเชียร์เพราะรักหรือเชียร์เพราะไม่อยากโดนล้อกันแน่ มันกลายเป็นอย่างนั้นไป

มองว่าการบลัฟกันเป็นเสน่ห์ไหม

ถ้าบลัฟกันสนุกๆ คุยกันเองในหมู่เพื่อนกัน มันเป็นเสน่ห์อยู่แล้ว สนุกสนาน แต่หลายครั้งพอเป็นตัวหนังสือ สีหน้าอารมณ์ เราไม่รู้ไงว่าคนพิมพ์เขาคิดอย่งาไร บางทีเราเข้าใจได้นะว่าคนที่พิมพ์ข้อความนี้เขาหยอกเล่น แต่บางคนหน้ามืดตามัว อ่านแล้วตีความไม่เคลียร์ ตัวอักษรก็เริ่มเดือด สาดไปสาดมาก็ยาว

ในชีวิตจริงเคยทะเลาะกับเพื่อนเพราะฟุตบอลไหม

ไม่เคย ถ้าทะเลาะเพราะฟุตบอลผมว่ามันตลกนะ ถ้าฟุตบอลไทยด้วยกันอาจจะโอเค
แต่บอลเมืองนอกมันไกลตัว บางคนก็อินเกิน เหมือนเป็นศาสนาของเขา ยุ่งไม่ได้
แตะไม่ได้ เป็นของสูง เป็นที่ยึดเหนี่ยว แต่สำหรับผมมันไม่ใช่ มันคือความบันเทิง
เหมือนละคร ถ้ามองจริงๆ คือเรากำลังดูมหาเศรษฐี 11 คน เตะบอลกัน แค่นั้นแหละ
พวกนี้แพ้ชนะจบเกมเค้าก็กอดคอกินเหล้ากัน หรือจบเกมแลกเสื้อกลับบ้านหาเมีย
ไม่สนใจอยู่แล้ว แต่หลายคนไม่มองอย่างนั้น

รับมือกับดราม่าเวลาโพสต์อะไรออกไปยังไงบ้าง

แฟนเพจผมค่อนข้างดีนะ เหมือนกรองมาแล้วระดับหนึ่ง เป็นแฟนที่มีวัยวุฒิ ผ่านการแซวมาแล้ว มีภูมิคุ้มกัน ไม่ใช่กลุ่มแฟนที่รับไม่ได้ ห้ามแตะต้อง หรืออีกอย่าง พวกที่รับไม่ได้ผมแบนไปแล้ว (หัวเราะ) 80 เปอร์เซ็นต์ที่ผมแบนในเฟซบุ๊กเป็นแฟนแมนยูฯ นี่แหละ แฟนตรงข้ามไม่มีใครมาด่าอยู่แล้ว เพราะเราไม่เคยแซะทีมอื่น แซะก็แซะนิดหน่อย ขำๆ

เราเป็นแฟนเพจแมนยูฯ ที่มีแฟนลิเวอร์พูลกดติดตามมากที่สุด เพราะถ้าเต้าข่าวฯ ฉบับไหนไปแซะทีมลิเวอร์พูลเข้าคอมเมนต์จะเดือดทันที มันจะมีคำต้องห้ามของแฟนหงส์ 4 คำ คือ เป็ด โม้ เล้า และลื่น เราสัมผัสได้เลยว่านี่คือแฟนกลุ่มหลักของเรา เราอย่าไปแตะทีมนี้เลย

เต้าข่าวเดลี่เวลาคิดมุขเริ่มกันยังไง

มันแตกต่างกันไปในแต่ละยุค ยุคจตุรเทพที่มี Wes Brown, Mikael Silvestre, John O’Shea, Darren Fletcher และ Kieran Richardson ตอนนั้นมันฮาอยู่แล้ว ของเขาดีอยู่แล้ว 5 คนนั้น แค่ลงก็ฮา ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย มันเลยง่าย คนอ่านเลยสนุก ผิดกับช่วงนี้
ที่ส่วนใหญ่ต้องดูการจัดตัว ดูว่ามีประเด็นไหนในเกมที่น่าเอามาแซว ตั้งแต่การจัดตัวแล้ว ถ้ารูนี่ย์ลงก็เรียบร้อย ยิ้ม เหมือนพระมาโปรด เขาคือไอดอลของเรา เขาลงแล้ว

แสดงว่าวัตถุดิบหลักๆ ตอนนี้คือรูนี่ย์

ใช่ ตอนนี้เป็นรูนี่ย์ แต่ถ้าเมมฟิสได้ลงก็ดีนะ ป็อกบาก็พอขายได้ ถ้าติดตามเต้าข่าวเดลี่มานานผมก็จะพยายามปั้นพวกตัวเทพ ตั้งแต่หมดจตุรเทพ ก็มี Danny Welbeck ขึ้นมา ผมก็พยายามชงแต่เขาให้เป็นจุดขายของเราให้ได้ เพราะถ้าติดแล้วจะง่ายสำหรับเรา เวลาจะแซวอะไรคนก็เข้าใจ แต่ยุคหลังๆ ตัวเทพก็เหลือน้อยเต็มที

มีนักเตะคนไหนที่เราไม่กล้าแซวไหม

ไม่มี คิดดูขนาดรูนี่ย์ ติ่งเยอะสุดในปฐพีเรายังย่ำยีจนไม่เหลืออะไรแล้ว (หัวเราะ)

เวลาแมนยูฯ ชนะหรือแพ้คิดมุขยากกว่ากัน

ยากทั้งคู่ โดยทั่วไปชนะยากกว่าอยู่แล้ว เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรให้แซว แต่มันมีหลายกรณี บางทีเล่นไม่ดีแต่ชนะ ก็ง่ายเหมือนกัน หรือชนะแต่มีประเด็น อย่างเช่นรูนี่ย์จับบอลกระฉอกเกือบเสียบสามเหลี่ยมก็ฮาเหมือนกัน หรือกรณีที่ทีมเล่นห่วยจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรให้แซวนะ มันมีแต่เรื่องให้ด่าอย่างเดียว

บางทีดูทั้งเกมง่วงจะตาย คิดในใจ รูนี่ย์ลงมาเปลี่ยนเกมให้หน่อยเว้ย ลงมาจับบอลกระฉอกสักทีก็แซวได้ทั้งหน้าแล้ว หรือบางทีทั้งเกมไม่มีอะไรเลย นักเตะคนนึงลงมานาทีที่ 89 แล้วมันทำอะไรฮาๆ ทีเดียว จบ จังหวะนี้ช่วยชีวิตเราจริงๆ (หัวเราะ)

เคยตันบ้างไหม ถึงเวลาต้องลงข่าวแล้วแต่ยังคิดมุขไม่ออก

แน่นอน ฤดูกาลนี้แรกๆ หนักเลย อย่างที่รู้กัน มูรินโญ่ชนะ 3 นัดรวด ผมก็คุยกับเพื่อน
เอาแล้วเว้ย ถึงจุดจบของเต้าข่าวเดลี่แล้ว เล่นอย่างนี้จะแซวอะไร พอคุยกันเสร็จหลังจากนั้นแพ้เลย เรียบร้อย กูไม่น่าพูดเลย ขอตันดีกว่า (หัวเราะ) หลังๆ นี่ลื่นเลย ผมเชื่อมาเสมอนะว่าแมนยูฯ ไม่สิ้นคนดี มันจะมีพระเอกขี่ม้าขาวมาเสมอ

มาช่วยเต้าข่าวเดลี่หรือมาช่วยแมนยูฯ

มาช่วยเต้าข่าวเดลี่นี่แหละ (หัวเราะ) หลังจากจตุรเทพก็มีเวลเบ็ค หมดจากนักเตะก็มีผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์ มาแทน หลังจากนั้นก็อาจารย์หลุยส์ (Louis van Gaal) สืบทอดมา ตอนนี้ก็เป็นยุคมูรินโญ่ อีกหน่อยอาจจะกลายร่างเป็นมอยส์รินโญ่

สุดท้ายนี้ คุณเล่นรูนี่ย์ไว้เยอะ ถ้าเจอหน้าเขาอยากจะบอกอะไรบ้างไหม

ผมคิดว่าเขาเป็นสุดยอดนักเตะระดับโลกนะ ฝีเท้าเขาก็ไม่ต่างจากพวกกาก้า ปีร์โล แลมพาร์ด เจอร์ราร์ด เขาน่าจะไปเมเจอร์ลีกได้แล้วนะครับ เพราะว่าพรีเมียร์ลีกมันกระจอกเกินไปสำหรับเขาแล้ว และผมคิดว่าเขาคู่ควรกับเบอร์ 10 ของเราที่สุดแล้ว เพราะเวลาผมเห็นเขาใส่เบอร์ 10 ลงสนาม มันก็เหมือนกับทีมเราเล่น 10 คนแหละครับ ต้องขอบคุณเขา เขาเป็นตำนานของเรา (หัวเราะ)

เครดิตภาพ > facebook l Devil Magazine

AUTHOR