#HelpKenyaNotKanye : รักวัวให้ผูก แต่ถ้ารักศิลปินเหมือนลูกต้องไม่หยุดแค่ตี!

เคยได้ยินชื่อ Kanye West กันใช่ไหมครับ?

ถ้าไม่นับคนที่ชอบฮิปฮอปอยู่แล้ว ใครที่ฟังเพลงสากลบ่อยๆ ก็น่าจะเห็นชื่อเขามาบ้าง ทั้งจากเพลงที่ไปฟีเจอร์ริ่งกับศิลปินหลายคน หรือเห็นจากข่าวที่พ่อหนุ่มผิวสีคนนี้วิ่งขึ้นไปแย่งไมค์จากปากอีสาวมหัศจรรย์ Taylor Swift มาด่านางกลางเวที MTV Video Music Awards เมื่อปี 2009 (ป.ล. สองคนนี้ยังตบตีกันอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน)

นั่นล่ะครับ สำหรับวงการเพลง ตาคานเย่คือแร็ปเปอร์ที่ปากสุนัขที่สุดคนหนึ่งของยุค

ยิ่งฉาวก็ยิ่งดัง ความวอนส้นเท้าให้สื่อสนใจของคานเย่ก็ทำให้เขาอยู่ในวงการได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้งทำเพลง เป็นโปรดิวเซอร์ ทัวร์คอนเสิร์ต ออกรองเท้าคอลเลกชันของตัวเองกับ Adidas ฯลฯ เอาเป็นว่าถึงนิสัยจะฉาวโฉ่เหม็นฉึ่งแค่ไหนก็ยังมีที่ทางของตัวเองได้ตลอด แถมยังมีบรรดาแฟนคลับคอยซัพพอร์ตอีกเป็นโขยง

จนเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา พ่อแร็ปเปอร์ปากกล้าของเราไม่รู้ไปเมามาจากไหน อยู่ๆ ก็ทวีตความเพ้อฝัน บรรยายความเต่าถุยของชีวิตลงในแอ็กเคานต์ทวิตเตอร์ @kanyewest ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ความทุกข์ที่ตอนนี้ตัวเองเป็นหนี้อยู่ถึง 53 ล้านดอลฯ จะทำอะไรก็ไม่มีใครซัพพอร์ตเงินทุน หนักข้อถึงขั้นทวีตเรียกพี่มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก เจ้าของเฟซบุ๊กให้มาช่วย (เอ่อ… แต่ดันมาเรียกในทวิตเตอร์เนี่ยนะ) แม้แต่แลร์รี่ เพจ เจ้าของกูเกิลก็ยังถูกเมนชันถึง

ถ้าจบแค่นี้ก็คงมองเป็นเรื่องขำๆ ตามประสาพี่คานเย่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเพ้อได้อยู่นะครับ แต่มันดันกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อพ่อเจ้าประคุณดันทวีตว่า

‘ถ้าอยากช่วยคนในแอฟริกาจริงๆ น่ะมันต้องสร้างโรงเรียนสักที่ไปเลย แต่คุณก็ทำไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เงินช่วยคน ก็เอามาช่วยผมดีกว่า ผมสัญญาว่าจะทำให้โลกนี้แม่งเจ๋งไปเลย #เรื่องจริงนะจ๊ะ’

เท่านั้นเอง โลกนกน้อยสีฟ้าก็ลุกเป็นไฟ คนเมนชันมาด่าคานเย่เป็นพรวน ขณะที่เอฟซีบางคนก็ยังคงติ่งกันต่อ บางคนถึงขั้นขอบัญชี Paypal มาบริจาคเงินให้ แต่ระหว่างที่มีทั้งคนด่าคนชม พ่อหนุ่มแฟนคลับเดนตายของคานเย่คนหนึ่งก็ตาสว่าง และบอกกับตัวเองว่า ‘เฮ้ย นี่มันชักจะเกินไปแล้วนะเว้ย!’

แต่แทนที่จะพิมพ์ด่าศิลปินที่เขารักเหมือนคนอื่นๆ ชายคนนี้เลือกที่จะตบหน้าคานเย่ให้หงายพร้อมๆ กับทำประโยชน์ให้สังคมไปด้วย

Gabriel Ferrer เป็นก๊อปปี้ไรเตอร์ชาวอเมริกันและแฟนตัวเป้งของคานเย่ เวสต์ เขาเป็นผู้สร้างโปรเจกต์ #HelpKenyaNotKanye (ช่วยคานเย่ทำไม มาช่วยเคนย่าดีกว่า) ด้วยความคิดที่ว่า ถ้าแก้ต่างให้ศิลปินที่เรารักไม่ได้ ก็เปลี่ยนคำด่าพวกนั้นเป็นอะไรที่มีประโยชน์กับสังคมดีกว่าไหม

ใน #HelpKenyaNotKanye กาเบรียลทำให้คำพูดของคานเย่ที่บอกว่าเขาควรจะได้เงินช่วยเหลือมากกว่าเด็กๆ ในแอฟริกากลายเป็นเรื่องตลก ด้วยการเอาความสำเร็จในชีวิตของศิลปินคนนี้มาเทียบกับสิ่งเลวร้ายที่เกิดในประเทศเคนย่าให้เราเห็นกันแบบจะจะ แล้วคิดเอาเองว่าจะช่วยคานเย่ หรือจะช่วยเคนย่า ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เช่น

‘รองเท้า Adidas Yeezy Boosts ของคานเย่ขายคู่ละ 200 ดอลลาร์ แต่ในเคนย่า เงินจำนวนนี้เอาไปซื้อหนังสือให้เด็กๆ 40 คนอ่านในห้องเรียนได้ถึง 3 เดือนติดกัน’

‘ตั๋วคอนเสิร์ตคานเย่ราคา 250 ดอลลาร์ แต่เงินเท่านี้เอาไปซื้อคอนดอมแจกป้องกัน HIV ให้ทั้งหมู่บ้านในเคนย่าได้เลยนะเออ’

ด้วยสกิลก๊อปปี้ไรเตอร์ของกาเบรียล (บวกกับภรรยาที่เป็นอาร์ตไดเรกเตอร์) เลยมีอีกหลายอย่างที่เขาเปรียบเทียบแบบฮาๆ ให้เราเห็นว่าคนที่ควรได้รับการช่วยเหลือน่ะคือประเทศเคนย่า ไม่ใช่คานเย่ และความเซอร์ไพรส์ที่สุดของเรื่องก็คือ จุดเริ่มต้นของแคมเปญนี้ เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 1 วัน ทั้งไอเดีย ภาพ คำบรรยาย และเว็บไซต์ ทั้งหมดถูกทำขึ้นก่อนที่กาเบรียลจะวิ่งออกไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยในเย็นวันนั้น

หลังแคมเปญนี้ถูกปล่อยออกไป กาเบรียลบอกว่านี่เป็นโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดชีวิตการทำงาน 5 ปีของตัวเอง แม้ส่วนใหญ่จะเข้ามาแล้วออกไปด้วยความตลก แต่คนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์หลังไมค์มาบอกเขาว่าได้บริจาคช่วยเหลือเคนย่าผ่านแคมเปญนี้ แหม น่าชื่นใจดีแท้

จากไอเดียที่อยากสั่งสอนความไร้สติของศิลปินที่ตัวเองชอบก่อนเข้านอน กลายมาเป็นโปรเจกต์ช่วยเหลือสังคมที่กลายเป็นกระแสในรุ่งเช้าของอีกวัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นด้วยความคิดง่ายๆ แบบนักโฆษณาที่เชื่อว่า ถ้ามีไอเดียปิ๊งขึ้นมาในหัว สิ่งที่ต้องทำก็แค่ทำให้มันเกิดขึ้นจริง!

ไม่จำเป็นต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกที่ยิ่งใหญ่ หรือการเคลื่อนไหวเพื่ออุดมการณ์ทางการเมืองที่จริงจังเพียงอย่างเดียวเสมอไป เพราะถ้าไอเดียสนุกๆ มารวมเข้ากับความเชื่อที่อยากเปลี่ยนแปลงสังคมเมื่อไหร่ ผลที่ได้ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะ

ที่สำคัญ ไม่เห็นต้องรอใคร เพราะการเปลี่ยนโลกน่ะ ทำแค่คนเดียวก่อนวิ่งออกไปสอนหนังสือก็ได้ เห็นไหมครับ

helpkenyanotkanye.com

AUTHOR