เปิดหม้อปรุงสมุนไพร สวมรอยเป็นแม่มดน้อยใน ‘The Green Witch Workshop’

“จับไพ่ด้วยมือซ้ายก่อนค่ะ” ไพ่ออราเคิลแผ่เรียงรายล้อมรอบเทียนอุ่นผสมกลิ่นสมุนไพรอบอวล ไม่ต้องฟุดฟิดหาที่มา เพราะเห็นตำตาจากขวดโหลนับสิบที่วางอยู่บนโต๊ะ ไพ่ป้ายด้วยสีรุ้งหงายออก “The universe works fast when I’m having fun.” หญิงรวบผมยืนยิ้มเป็นมิตร เธอว่านี่คือการสำรวจคลื่นพลังงานตอนนี้ของตัวเอง

 โลกภายนอกยามบ่ายสองโมงกำลังพลุกพล่าน แต่บนตึกแถวเล็กๆ ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองนักกลับช่างสงบเงียบ เท้าของเรากำลังเหยียบอยู่ในโลกของ Green Witch แม่มดศาสตร์สมุนไพร 

พวกเขาไม่มีไม้กวาดไว้ขี่บินรอบท้องฟ้า ไม่มีเครื่องรางลูกประคำ จะมีก็แต่หม้อปรุงใบไม้ดอกไม้ และวาจาศักดิ์สิทธิ์หล่นจากปาก สาวน้อยทั้งสองที่เชื่อในพลังงานจักรวาลสวมรอยเป็น Green Witch ปะปนกับผู้คน ‘ปิน – วรลาภา โลจายะ’ และ ‘จ๋า – จารุวรรณ คงบรรทัด’ ผู้ที่จะทำให้เราหลงใหลการปรุงสมุนไพร และได้ลองเป็นแม่มดน้อยบ้างสักครั้ง ใน The Green Witch Workshop’

โหลแก้ว ที่คีบไม้สีอ่อน ขวดดรอปเปอร์ ดอกไม้ในถ้วย เหล่านี้เป็นวัตถุดิบอุปกรณ์ที่เราได้มา ปินประเดิมเล่าตำนาน Green Witch เหมือนเราจะได้ยินคำว่ากาลครั้งหนึ่งขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดก็ตาม แม่มดในป่าใหญ่รักการปลูกเป็นที่สุด พวกเธอเชื่อว่าพลังของเราอยู่ในดินและเสียงใบไม้ไหว เพียงเด็ดนู่นผสมนี่ก่อนจะคนให้เข้ากันตามตำราก็จะช่วยบรรเทาจุดที่ปวด ทั้งยังทำให้ออราเปล่งปลั่งทะลุร่างกาย 

จ๋าพูดประโยคหนึ่งขึ้นด้วยความเชื่อ และปินเองก็พยักหน้ารับ “ไม่ว่าใครก็เป็นแม่มดได้”

เช่นเมืองหนึ่งในประเทศอังกฤษเต็มไปด้วยพ่อมดแม่มด พวกเขาเคารพบูชาพระแม่ไกอา เมืองนั้นคือ ‘Glastonbury’ ไฟในตัวปินถูกจุด หลังเธอได้ค้นพบที่แห่งนี้กระทั่งหันมาทำงานด้านศาสตร์พลังงานเต็มตัว เธอว่าแม่มดไม่ใช่เรื่องของคุณไสยที่น่ากลัว หรือลัทธิน่าขนลุก มันเป็นวิถีชีวิตของผู้คนต่างหาก

แน่นอนว่าเวิร์กชอปในวันนี้เธอหอบความรู้มาเต็มกระเป๋า ทั้งการนับธาตุตัวเองตามกรุปเลือดไล่เรียงกันไป เอเป็นธาตุดิน โอเป็นธาตุไฟ เอบีเป็นธาตุน้ำ และบีเป็นธาตุลม และหากได้รู้ว่าจุดกำเนิดของตัวเองเป็นพลังงานแบบไหนก็จะทำให้การเลือกใช้สมุนไพรตามธาตุง่ายยิ่งขึ้น 

เอาล่ะ! เราจะเริ่มปรุงยาแล้วนะ เปิดหัวด้วย Juniper Berry หรือลูกสน ผลกลมเล็กสีม่วงเข้มจากไม้พุ่ม รสเปรี้ยวหวานไม่เข็ดฟัน เหมาะกับผู้ที่มีแก๊สในกระเพาะเยอะเป็นพิเศษ เหล่าแม่มดเชื่อว่าถ้าเผาก้านจูนิเปอร์จะทำให้ฝนหยุดตก เทียบได้กับการปักตะไคร้บ้านเราทีเดียว 

คีบ Calendula หรือดาวเรือง ใส่ลงไปสักสองสามดอก หน้าตามันเหมือนดอกทานตะวันย่อส่วน เจ้านี่จะช่วยฟื้นฟูอาการเมื่อเราเหนื่อยล้า ทำให้สมองปลอดโปร่งมีพื้นที่สร้างสรรค์ ความจริงแล้วสเปียร์มินต์ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี ใบเขียวอื๋อแต่ให้รสหวาน ดมแล้วจมูกโล่ง ช่วยระงับความโกรธอีกต่างหาก ทว่าโดยปกติแล้วผู้เขียนไม่ได้โกรธใครง่ายเท่าไหร่นัก 

อย่างนั้นจับแท่ง Cinnamon อบเชยกลิ่นหอมฉุยค่อยๆ เสียบลงไปดีกว่า น้องมีฉายาเปรียบเป็นเครื่องเทศในคราบความอบอุ่นเลยนะ เมื่อเราได้รสอบเชย ร่างกายก็จะค่อยๆ อบอุ่นขึ้น ก่อนจะร้อนผ่าวไต่ระดับกลายเป็นไฟลุกโชน ทำให้รู้สึกพร้อมรบกับโลกขึ้นมา

และที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นพืชโปรด Dandelion Root หรือรากแดนดิไลออน เราเคยศึกษามาอยู่บ้างว่าแดนดิไลออนเป็นพืชดอกที่ภายนอกดูอ่อนแอ เมื่อกลีบบานออกจะสะพรั่งกลายเป็นละอองกลมๆ เกาะตัวกัน ไม่ว่าใครก็ตามที่เป่าละอองนั้นพลางอธิษฐาน คำขอพรจะกลายเป็นจริง แต่แดนดิไลออนก็ไม่ได้อ่อนแออย่างที่เห็น ละอองทั้งหมดที่ปลิวล่องไป เมื่อตกลงที่ไหนก็จะเติบโตขึ้นได้อีกครั้ง

ในศาสตร์ของสมุนไพร รากแดนดิไลออนยังเป็นยาที่ช่วยให้ตับดี ผิวพรรณประกายขึ้น หากใครเป็นแม่หมอแล้วพกรากนี้ติดตัวก็จะช่วยให้เซนส์ดี แม่นอย่างกับตาเห็นจะเป็นคำหนาหูเลยล่ะ ณ จุดนี้ต้องใช้คำว่าโกยใส่ขวดโหล 

ตามด้วยเปลือกไม้หั่นบาง Licorice Root ชะเอมเทศรสหวานนิดๆ เขาว่าแม่มดจะเคี้ยวมันก่อนท่องคาถาให้คนรักคนหลงด้วยนะ และบรรณาธิการประจำ a day ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็กำลังเคี้ยวมันหนุบหนับด้วยหน้าตาปริ่มเปรมเป็นที่สุด

ถ้วยดอกไม้อื่นๆ ต่างก็มีผู้เข้าร่วมเวิร์กชอปหยิบจองกันไป ลาเวนเดอร์หายเกลี้ยงเห็นได้ชัด สัญญาณชัดว่าหลายคนน่าจะนอนไม่ค่อยหลับเป็นแน่

อย่าง Blue Lotus หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Water Lily ก็ช่วยให้นอนหลับสนิทได้ ออกฤทธิ์คล้ายลาเวนเดอร์เช่นกัน ใครที่อารมณ์ตึงก็จะผ่อนคลายลง กระซิบว่าบรรดาแม่มดจะสูบมันเพื่อความ High เคลิบเคลิ้มล่องลอยราวกำลังฝัน 

และเมื่อส่วนผสมสารพัดลงตัวแล้ว จ๋าก็ทำหน้าที่ที่เธอถนัด สาดใส่ความรู้ด้านการสกัด เธอว่าหากเทแอลกอฮอล์เป็นตัวหมักดองจะทำให้สมุนไพรทั้งหมดออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า ดอกไม้ รากไม้ ใดๆ ในขวดโหลค่อยๆ ลอยปริ่มตามปริมาณของเหลวข้นคลั่กที่เทลง แม่มดน้อยทั้งสองเริ่มกล่าวคำบอกลา ทิ้งไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนของแม่มดฝึกหัดในห้องนับสิบคน 

เราคงยังไม่อาจงัดพลังวิเศษออกมาให้รู้กันได้ในตอนนี้ เพราะต้องใช้เวลาหมักราว 2-3 อาทิตย์ ก่อนจะเทลงดรอปเปอร์แก้ว และหยดใส่ใต้ลิ้นจากรสมือตัวเองให้ซาบซ่าน

แต่ในไม่ช้า น่าจะได้เห็นพลังวิเศษจากแม่มดฝึกหัดคนนี้นะ

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

นอยบอย

ช่างภาพที่ชอบนอยเพราะน้ำตาลตก 🥲