หลังจากที่ผ่านมา เราๆ จดโน้ตในแท็บเล็ตจนเป็นความเคยชิน ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงได้หยิบสมุดโน้ตที่ทำด้วยกระดาษเนื้อดีขึ้นมาใช้แทน
ไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัลสะดวกและรวดเร็วก็จริง
แต่บางครั้งเราก็ต้องการอะไรที่จับต้องได้ ทำให้ของธรรมดาๆ ที่ดูเชยในสายตาหลายคน ได้รับความนิยมขึ้นมา
วันนี้เราจะมาดูเรื่องแบรนดิงของสมุดโน้ตที่ออกแบบและผลิตด้วยคนไทยกัน
เรื่องราวของแบรนด์

‘Zequenz’ คือชื่อของแบรนด์ไทยที่เริ่มต้นจากการผลิต ‘กระดาษสา’ ในช่วงที่ธุรกิจการ์ดอวยพร กระดาษห่อของขวัญ และของชำร่วยที่ทำด้วย ‘กระดาษสา’ มาแรงในตลาด และในตอนนั้นไทยเป็นฐานการผลิตกระดาษสาเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ
ระหว่างนั้นทางแบรนด์จึงได้ออกแบบและพัฒนาโปรดักต์ของตนเองขึ้นมา แล้วสมุดโน้ตภายใต้แบรนด์ ‘Zequenz’ จึงถือกำเนิดขึ้น
ด้วยความที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกระดาษมานาน จึงมีความเข้าใจใน ‘ตลาด’ และ ‘ผู้บริโภค’ แม้ว่า ‘กลุ่มลูกค้า’ จะไม่เหมือนกัน แต่ก็เป็นกลุ่มที่มองหาสินค้าใหม่อยู่ตลอด และคงไม่มีสิ่งใดถูกใจชาวออฟฟิศและธุรกิจมากไปกว่า ‘สมุดโน้ต’ อีกแล้ว
เพราะต้องใช้จดรายละเอียดการประชุม วางแผนงาน จัดการชีวิต และคิดโพรเจคต์ต่างๆ ทุกจังหวะเวลาของ ‘มนุษย์ทำงาน’ จึงมีสมุดโน้ตอยู่ข้างกาย ถ้าลืมนำสมุดโน้ตมา หรือว่าทำหายคงทำอะไรไม่ได้ไปทั้งวัน!
ความ Niche ในแบบ Zequenz

จากการค้นคว้าและพัฒนายาวนานหลายปี ในที่สุดสมุดโน้ตแบรนด์ ‘Zequenz’ ก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีแบรนด์ไหนในไทยเหมือน
สมุดของ Zequenz กางออกได้ 180 องศา หรือว่าวางเรียบบนโต๊ะได้ โดยที่หน้ากระดาษแบนราบ ไม่พับขึ้นมา
นั่นหมายความว่า Zequenz แก้ไข Pain Point ของคนที่ชอบเขียนหนังสือได้อย่างตรงจุด
เพราะตลอดมาเราๆ มักพบกับปัญหาเวลาสมุดกางออกได้ไม่หมด
ขณะที่เขียนบนสมุด มือขวาของเราจะเลื่อนไปเรื่อยๆ ตามตัวอักษร พอเขียนถึงกลางสมุด มักต้องเอียงมือเพราะสะดุดกับหน้าหนังสืออีกด้าน
แต่ถ้าเป็นสมุดของ Zequenz ล่ะก็เขียนได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว
อีกทั้งตอนนี้หลายคนกำลังอินกับ ‘ปากกาหมึกซึม’!
สมุดของ Zequenz ผลิตด้วยกระดาษเนื้อดีที่ใช้กับปากกาหมึกซึมได้
เพราะสมุดโน้ตส่วนใหญ่ทำจากกระดาษเนื้อบาง ทำให้ปากกาหมึกซึมเป็นคราบ และหมึกยังมักทะลุไปถึงหน้าหลัง คนรักปากกาหมึกซึมจึงต้องเลือกใช้สมุดจากกระดาษดีที่มีความหนา รองรับน้ำหนักและความเข้มของหมึกซึมได้ดี
แล้ว Zequenz ก็คือคำตอบ!
ฐานลูกค้าสมุดสุดครีเอทิฟ

สมุดของ Zequenz มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดมินิสำหรับพกใส่กระเป๋า ขนาด A5 ไซส์มาตรฐานของสมุดบันทึก ขนาด A4 สำหรับรายละเอียดยิบย่อย และอีกมากมาย แล้วหน้าปกมีหลายสี ทั้งโทนสีเข้ม หรือสีสดใสที่ใช้ชื่อว่า ‘POP’ แล้วยังมีคอลเลกชันใหม่แนว Gradient ไล่เฉดสี
จากรูปลักษณ์ที่มีความคูล ใช้ได้หลายโอกาส ทั้งเป็นทางการ หรือเขียนเป็นไดอารีส่วนตัว ทำให้แบรนด์ Zequenz เป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบอย่างประณีต และโปรดักต์ที่มีคุณภาพ ชุมชนครีเอทิฟจึงได้หลงรักสมุดของ Zequenz กันแทบทุกคน
สำหรับคนที่ต้องจัดการชีวิตให้ลงตัวก็นำสมุดของ Zequenz มาเขียนเป็น Bullet Journal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทางร้านยังจัดเวิร์กชอปถ่ายทอดวิธีการเขียน Bullet Journal ในราคาน่ารักอยู่บ่อยๆ
ถ้าเป็นสายหวาน ก็นำสติกเกอร์มาแปะหน้าปกและเนื้อในสมุด Zequenz ในสไตล์ Junk Journal ที่กำลังได้รับความสนใจมากในตอนนี้ หรือจะใช้เป็นไดอารีดอกไม้ สำหรับเก็บรวบรวมดอกไม้แห้งที่พบเจอในแต่ละวันก็ได้
หรือถ้าอยากคั่นหน้าสมุด ทางแบรนด์ก็มีแม่เหล็กขนาดมินิในสีที่เข้ากับปกสมุดโน้ตจำหน่ายด้วย
แล้วราคาเล่มละเท่าไร?
จากที่กล่าวมาทั้งหมด หลายคนคงคิดว่าสมุดแบรนด์ Zequenz คงมีราคาแพง จนต้องปาดเหงื่อ
แต่รู้ไหมว่าจริงๆ แล้วสมุดขนาดมินิของ Zequenz ราคาเพียง 145 บาทเท่านั้น!
ถ้าหน้ากระดาษมีจำนวนเยอะขึ้นมาหน่อย ก็เพิ่มเป็น 350 บาท
เล่มที่ได้รับความนิยมอย่าง A5 ราคาเริ่มต้นที่ 635 บาท หน้าปกเป็นปกแข็ง ทนทานต่อการใช้งาน ไม่ขาด หรือลอกเป็นแผ่นๆ จดบันทึกเก็บไว้ได้หลายเดือน
แล้วถ้าอยากส่งต่อโปรดักต์คุณภาพให้เพื่อนๆ และคนรอบข้าง แบรนด์ Zequenz ก็รับผลิตสมุดโน้ตเป็นจำนวนมาก โดยเลือกสี หรือลวดลายปกเองได้ จึงได้มีลูกค้าอีกส่วนที่สั่งผลิตเพื่อเป็นของพรีเมียม หรือของขวัญปีใหม่ในทุกปี

ช่องทางการวางขาย
พบเห็นสมุดแบรนด์ Zequenz ได้ในร้านหนังสือและเครื่องเขียนใหญ่ๆ ทั่วประเทศ
แต่ช่องทางในการจำหน่ายที่น่าจับตามองมี 2 ช่องทาง คือทางแอปส้มกับคอมมิวนิตีสเปซแห่งใหม่ในย่านเอกมัย
ด้วยสาเหตุเดียวกันที่ทำให้หลายคนตัดสินใจกดสั่งในแอพส้ม ทางแบรนด์มีคูปองส่วนลดในช่วงโปรโมชัน ส่วนลดอาจดูไม่มาก แต่แบรนด์ Zequenz ไม่ได้ลดราคาบ่อย และยังไม่ค่อยร่วมโปรโมชันของร้านเครื่องเขียนอื่นๆ แอพส้มจึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคาสำหรับ FC แบรนด์ Zequenz
ต่อมาคือคอมมิวนิตีสเปซที่ชื่อ Third Base ซึ่งเพิ่งเปิดทำการได้ไม่นานในซอยเอกมัย 12 ในพื้นที่เดียวกันมีไวน์บาร์และพื้นที่จัดเวิร์กชอป เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศจากร้านหนังสือ หรือร้านเครื่องเขียน เป็นสเปซให้ถ่ายรูปสวยๆ
หรือจะมีอีกอย่างก็ที่ Good to Great ในโครงการ Warehouse 26 ซึ่งจัดงานลดราคาถึง 80% แค่ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น สาวกแบรนด์ Zequenz จึงตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงวันงาน และมักจดรายการของที่ต้องซื้อเตรียมไว้ล่วงหน้า พอถึงวินาทีที่ร้านเปิดประตู ก็พุ่งตัวเข้าไปซื้อทันที
ใครที่สนใจสมุดแบรนด์ Zequenz ราคาต่ำกว่าทุน ให้เคลียร์ชีวิตช่วงเดือนมิถุนายนและธันวาคมไว้ได้เลย
ของคุณภาพจากความสามารถของคนไทย คงไม่มีใครห้ามใจไหวหรอก!