‘Jorakay’ ว่าด้วยเทรนด์รักษ์โลก ปรัชญาน้อยแต่มาก และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

คำว่า ‘บ้าน สำหรับเราคืออะไร?

ที่อยู่อาศัย หนึ่งในปัจจัย 4 บ้านหลังแรกที่เก็บเงินซื้อตั้งแต่เริ่มทำงาน สถานที่ซึ่งเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ที่พักพิงใจที่ทุกคนที่รักอยู่พร้อมหน้า

ไม่ว่าคำว่า ‘บ้าน’ จะหมายถึงอะไร การสร้าง ‘บ้าน’ หนึ่งหลังขึ้นมา ต้องทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และใช้เวลาที่มีทั้งหมด เพื่อให้ครอบครัวครอบครัวหนึ่งได้มี ‘บ้าน’ เป็นของตนเอง

เริ่มต้นด้วยความคุ้นเคย 

ย้อนเวลากลับไปหลายสิบปีก่อน ‘จระเข้’ เป็นชื่อแบรนด์น้องใหม่ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์จำเป็นสำหรับการสร้าง ‘บ้าน’ แล้วค่อยๆ ขยายไลน์สินค้าจากนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้ ‘บ้าน’ สมบูรณ์แบบขึ้นอย่างในปัจจุบัน

ถ้าต้องอธิบายว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ ‘จระเข้’ มีอะไรบ้าง? เราเองก็คงงงกับชื่อสินค้านับร้อยชนิดที่ไม่คุ้นหู และนึกภาพไม่ออกว่าจะนำมาใช้ทำอะไร แต่ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้ ‘บ้าน’ เป็น ‘บ้าน’ 

ในระยะแรกแบรนด์จึงออกแบบโลโกให้เป็นรูป ‘จระเข้’ เหมือนมาจากตำนานเก่าแก่ของไทยเรื่อง ‘ชาละวัน’ เพื่อให้เป็น ‘ภาพจำ’ แล้วเพิ่มคำว่า ‘USA’ ลงไปด้านล่างโลโกซึ่งมีที่มาจาก ‘USA Technology’ หรือว่าเทคโนโลยีจากสหรัฐอเมริกาที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของแบรนด์

สัญลักษณ์ ‘จระเข้’ ที่ทรงพลังจึงมาพร้อมกับ ‘ความทันสมัย’ แบบ USA ทางแบรนด์จึงได้ใช้โลโก ‘จระเข้’ มาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงทุกวันนี้ รวมแล้วก็เป็นเวลา 30 กว่าปี

ไปต่อแบบรักษ์โลก

จากสภาวะโลกร้อน และสิ่งแวดล้อมน่าเป็นห่วง ผู้คนจึงหันมาใส่ใจกระแส ‘รักษ์โลก’ มากกว่าที่เคยเป็นมา 

WGSN ผู้นำทางด้านการวิเคราะห์และนำเสนอ ‘เทรนด์’ โลก เน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ และยังคงมองว่า ‘การออกแบบอนาคตที่ยั่งยืน’ สำหรับมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอนาคต

ในรายงาน ‘Create Better’ ของ WGSN เมื่อปี 2565 ‘ความยั่งยืน’ เป็นสิ่งที่ธุรกิจหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้นำเสนอ ‘ชุดเครื่องมือ’ เพื่อเป็นกลยุทธ์สร้างนวัตกรรมและงานออกแบบที่ยั่งยืนสำหรับโลก

เพราะว่าลำดับความสำคัญของลูกค้าเปลี่ยนไป จากเดิมลูกค้าตัดสินใจซื้อจากราคา หรือรูปลักษณ์สินค้าเป็นหลัก แต่ด้วยความใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีเพิ่มมากขึ้น แบรนด์ที่มีหัวใจ ‘รักษ์โลก’ จึงได้รับเสียงตอบรับที่ดี

แล้วในปีเดียวกันนี้เอง ‘จระเข้’ ก็ร่วมเป็นหนึ่งในแบรนด์ ‘รักษ์โลก’ ที่ผลิต ‘สีทาบ้านและอาคาร’ จากนวัตกรรมใหม่ที่ผลิตด้วย ‘วัสดุธรรมชาติ’ แห่งเดียวในประเทศไทย

เทรนด์แนวทางการออกแบบ

กว่าที่ WGSN จะจัดพิมพ์ ‘Trend Book’ ในแต่ละปี ต้องนำข้อมูลสินค้าและผู้บริโภคมาวิเคราะห์ แล้วสรุปเป็น ‘Trend’ ของปี โดยทั่วไป WGSN จะนำเสนอบทวิเคราะห์ในหัวข้อหลักๆ เช่น ลักษณะของผู้ใช้ การตลาด การค้าปลีก (Retail) โทนสี และแนวทางการออกแบบของปี 

คล้ายกับ Pantone of the Year แต่เป็นเวอร์ชันของธุรกิจและแบรนด์โดย WGSN

ผู้ที่ใช้การวิเคราะห์และคู่มือเทรนด์ของ WGSN จึงมีตั้งแต่นักออกแบบและธุรกิจประเภทต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึง ‘บ้าน’ เช่น ถ้าจะออกแบบเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ ก็สามารถอ้างอิง Mood & Tone และโทนสีจากคู่มือเทรนด์ได้ หรือจะดีไซน์สีทาบ้านชุดใหม่สำหรับปีหน้า ก็เช็กใน Trend Book ว่าแนวโน้มการออกแบบของปีหน้าจะเป็นแบบไหน ให้ความสำคัญกับการแต่งบ้านสไตล์อะไร แล้วโทนสีไหนที่จะได้รับความนิยม จึงค่อยนำไปกำหนดทิศทางโดยรวมของการออกแบบของแบรนด์

‘น้อยแต่มาก’ แนวทางการออกแบบแบรนด์ใหม่

การออกแบบแบรนด์ที่เน้นเรื่อง ‘ความยั่งยืน’ มักแสดงออกอย่าง ‘เรียบง่าย’ แต่ไม่ได้หมายความว่า ‘ง่าย’ ในการดีไซน์

ด้วยปรัชญาการออกแบบ ‘น้อยแต่มาก’ นักออกแบบต้องสื่อความหมายเท่าที่จำเป็น ลดรายละเอียด หรือการตกแต่งประดับประดา แล้วแสดงออกถึงความเป็นแบรนด์ด้วย ‘วิชวล’ ที่สะท้อนให้ถึง ‘ตัวตน’ ของแบรนด์อย่างแท้จริง

ตั้งแต่โลโก Mood & Tone คู่สี ตัวอักษร การออกแบบรูปลักษณ์สินค้า และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดจะประกอบขึ้นเป็น ‘ภาพจำ’ ของแบรนด์

กว่าจะได้มาซึ่งแนวทางการออกแบบที่น้อยแต่มาก มักต้องผ่านกระบวนการคิดทบทวนไปมา เพื่อให้เหลือแต่แก่นสารสำคัญ

รูปลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ภายใต้ ‘จระเข้’ ที่มีชื่อว่า ‘See Jorakay’ จึงมาพร้อมกับโลโกสะอาดตา ซึ่งลดรายละเอียดลงมาจากโลโกเดิมที่ใช้มากว่า 30 ปี เหลือเพียงเส้นแกนกลางลำตัวจระเข้และฟันเพียงไม่กี่ซี่เท่านั้น ทั้งหมดเพื่อสื่อให้เห็นถึงความเท่าทันยุคสมัย น่าเชื่อถือ และใช้ได้จริง 

ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ใหม่ก็ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์รักษ์โลกแบบเรียบง่ายเช่นเดียวกัน โทนสีธรรมชาติของ See Jorakay บ่งบอกถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่าง สีเขียวเข้ม สีเทาขรึม สีน้ำเงินกรมท่า และสีน้ำตาลเอิร์ธโทนที่มีหลากเฉดสีให้เลือก 

ในเรื่องการออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับโลโกที่มีความเรียบง่าย แต่ตรงประเด็น เลือกใช้ตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษสไตล์มอเดิร์น สื่อสารลักษณะเด่นของผลิตภัณฑ์ด้วยไอคอนเรียบๆ และไม่ตกแต่งเพิ่มเติมใดๆ จะได้มองเห็นแต่รายละเอียดจำเป็นเท่านั้น

ประมาณว่า ‘See Jorakay’ เป็นจระเข้รุ่นใหม่ที่ทันสมัยและทันเทรนด์

ให้มากกว่ารับ 

เมื่อสิ่งที่จะติดตัวเราไปตลอดคือ ‘วิชาความรู้’

ในฐานะแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม การพัฒนา ‘ทรัพยากรมนุษย์’ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในด้านรักษ์โลก จึงเป็นอีกสิ่งที่แบรนด์สนับสนุน 

แบรนด์ ‘จระเข้’ หยิบยื่นโอกาสด้านการส่งเสริมอาชีพให้กับทรัพยากรบุคคลในนามของ ‘Jorakay Academy’ หลักสูตรที่เปิดสอนเป็นเทคนิควิธีจำเป็นสำหรับการสร้าง ‘บ้าน’ เช่น การปูกระเบื้อง 

ทั้งหมดได้รับการออกแบบเนื้อหาให้ผู้เรียนนำไปใช้ได้จริง หรือต่อยอดได้ แต่ละคอร์สราคาไม่แพงเกินไป เพียง 2,000 กว่าบาทเท่านั้น แล้วยังแถมความรู้เบื้องต้นที่จำเป็นให้ด้วย

หลังเรียนจบคอร์ส จะได้รับผลิตภัณฑ์ของ ‘Jorakay’ ในราคาที่มากกว่าค่าหลักสูตรและวิชา

สำหรับผู้เรียนคอร์สของ Jorakay Academy คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

สำหรับ Jorakay Academy คอร์สต่างๆ เป็นการให้ยิ่งกว่าให้

เพราะท้ายที่สุด ‘ทรัพยากรมนุษย์’ ก็เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของทุก ‘บ้าน’ 

AUTHOR