กลิ่นนั้นทำให้หนูคิดถึงบ้านที่มีแม่อยู่ ‘Karmakamet’ เครื่องหอมแห่งความทรงจำ

“ข้าวสวยหอมๆ พี่หมีตัวโปรด เสื้อผ้าของหม่าม้า น้ำหอมของป๊า

กลิ่นยาหม่องของยาย และกลิ่นความทรงจำในโลกใบจิ๋ว”

เราต่างมี ‘กลิ่น’ ของใครสักคนที่อยากเก็บไว้ในขวดแก้วเล็กๆ ได้ดอมดม และครอบครองมันเพียงผู้เดียว ให้ความหอมยังอบอวลอยู่ในซอกใดซอกหนึ่ง ใช่ เพียงห้วงความทรงจำ เสมือนบันทึกไดอารีเล่มเล็กที่ถูกวาดด้วยสีเทียนสดใส เมื่อเปิดดูเมื่อไหร่ก็จะเห็นแผนที่การเดินทางที่ผันผ่านมาได้แจ่มแจ้ง 

กลิ่นดินที่เท้าน้อยเหยียบย่ำลง น้ำค้างกลิ้งเล่นบนใบหญ้า กลิ่นอุ่นยามพระอาทิตย์ค่อยๆ หล่นจากเมฆ เสียงฝนซาทั้งลมพัดเย็นแต่ไม่ยะเยือก ขัดกับในเมืองที่หากนึกภาพรถเมล์ก็จะฟุดฟิดกับควันขมๆ ตีขึ้นจมูก ถ้าให้คิดถึงอะไรที่ดูหอมขึ้นมาหน่อย กลิ่นของคนเก่า ไม่สิ! ตีโค้งกลับมาเดี๋ยวนี้ อืม คงเป็นหมูปิ้งนมสดหน้าหมู่บ้าน ยั่วท้องที่สุดถ้าเป็นกลิ่นกับข้าวรสมือแม่ หรือกลิ่นชื่นใจจากดอกมะลิบนผิวน้ำในขันสีเงิน 

กระทั่งกลิ่นแดดบนผ้าถุงของยาย แม้ผู้เป็นเจ้าของจะไม่อยู่แล้ว แต่กลับทิ้งความคิดถึง (ปนน้ำตาซึมนิดๆ) เอาไว้ 

กล่าวได้ว่า ‘กลิ่น’ เป็นผู้กุมความลับแห่งโลกใบเล็กๆ ของเรา

และแบรนด์ ‘Karmakamet’ (คามาคาเมต) ได้ช่วยไขประตูบานนั้นเพื่อเผยให้กลิ่นกลับมาฟุ้งอีกครั้ง ตลอดระยะเวลาหลาย 10 ปีมานี้ พวกเขาตั้งใจสร้างสรรค์กลิ่นที่หลากหลายช่วยเติมเต็มชีวิตผู้คน โอบอุ้มความสงบของจิตวิญญาณให้ไม่เลือนหาย และปลุกบรรยากาศบ้านให้ร่าเริงผ่านผลิตภัณฑ์ที่แสนจะสุนทรีย์ เราเห็นความตั้งใจนั้นจึงไม่อยากบอกต่อ…แต่อยากตะโกนให้รู้ไปเลย!

ยังไม่ต้องทิ้งเทียนหอมหรือก้านไม้ที่ซื้อมานะ ใช้ให้หมดก่อน แล้วทด Karmakamet ไว้ในใจเป็นอันดับต่อไป หากตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกกลิ่นไหน เราจะแนะนำให้

สำหรับโลกที่มนุษย์มากกว่าล้านคนแทบจะถวายตัวเป็นทาสชา แน่นอนว่า ‘กลิ่น Chinese Red Tea’ โคตรจะตอบโจทย์ เอาให้หายใจเข้าออกเป็นชากันไปเลย แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะสำลักนะ เพราะเขาออกแบบมาให้กลิ่นนุ่มละมุน ผ่อนคลายไม่เลี่ยน ผสมเครื่องเทศจีนจางๆ ดมเข้าไปแล้วจมูกเลี่ยมทอง ปากต้องร้องว้าว! หอมดีจัง

ผ่านผลิตภัณฑ์ ‘ก้านไม้หอมกระจายกลิ่น’ ที่ปรุงจากน้ำมันดอกไม้และพืชพรรณสุดเข้มข้น หวานปนฝาดด้วยใบชา หากอดใจไม่ไหวอยากให้กลิ่นแรงกว่านี้ ให้สลับก้านไม้ที่จมอยู่ในน้ำมันขึ้นด้านบน กระตุ้นการระเหยของกลิ่น แต่ระวังน้ำมันหอมหมดไวนะ กระซิบว่าซื้อมาตุนเยอะๆ เลยท่าจะดีทีเดียว เพราะโดยธรรมชาติแล้ว การระเหยของกลิ่นจะลอยจากด้านล่างขึ้นด้านบนเสมอ ถึงควรจัดแจงที่ทางให้ขวดน้ำหอมอยู่ระดับเอวหน่อย จะได้สูดเข้าถึงอรรถรส 

ถัดมาสำหรับสายชอบนั่งหลับตาอยู่ในท่าสมาธิ พับเพียบก็ไม่ติด หรือจะหลับใหลสบายตัวเคล้าแสงอุ่นๆ ก่อนนอน เราขอแนะนำ ‘เทียนหอม’ กลิ่นชาจีนเช่นเดียวกับก้านไม้ แต่กรรมวิธีการผลิตเทียนของ Karmakamet นั้นไม่ธรรมดา เพราะเขาใช้วิธีเทเทียนด้วยมือแบบดั้งเดิม หล่อหลอมวัตถุดิบธรรมชาติอย่างไขถั่วเหลือง ไส้เทียนจากฝ้าย ผสมน้ำมันหอมถึง 12% เรียกว่ากลิ่นคงทนจนกว่าจะหมดแก้วกันไป หอมนาน 50-60 ชั่วโมงกันไปเลยเชียว 

บอกทริกให้อีกหน่อยว่าการคอยจุดๆ ดับๆ เทียนเนี่ย ไม่ช่วยให้น้องละลายช้าลงนะ ถ้าจะให้เหมาะเหม็งต้องจุดประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือจนกว่าแอ่งน้ำตาเทียนจะสุดที่ขอบแก้ว หากจุดนานไปจนควันดำโขมงก็ไม่ดีเท่าไหร่ และต้องคอยเล็มไส้เทียนสัก 5-6 มิลลิเมตรก่อนใช้ทุกครั้ง หาแก้วสักใบมาครอบฝาไว้หลังใช้งานเสมอ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้น้องเทียนอยู่กับเราได้นานขึ้นด้วย 

‘Karmakamet’ ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1971 จวบตอนนี้มีอายุได้กว่า 50 ปีแล้ว แทบเป็นผลิตภัณฑ์ในประวัติศาสตร์ ทำให้วางใจได้ว่าพวกเขาช่ำชองในเรื่องกลิ่นจนซึมซับปรัชญา ของมัน และเชื่อว่ากลิ่นลึกซึ้งมากกว่าความหอม เป็นดั่งศิลปะของชีวิต ประสบการณ์ เชื่อมโยงความทรงจำในอดีตของเราได้ ทั้งยังบ่งบอกเรื่องราว มุมมองที่เรามีต่อโลกใบนี้ กลิ่นทุกกลิ่นถึงเท่าเทียมกันสำหรับพวกเขา ยังมีอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่ซ่อนกลิ่นเอาไว้ รอให้คุณไปหา

และหากช่วงนี้หัวใจไม่ค่อยสุขีเท่าไหร่นัก Karmakamet มีกลิ่นแห่งความสุขคอยอยู่นะ

AUTHOR