ผันจากจับกระทะเป็นเครื่องดนตรีโลหะเบาหู ‘แฮนด์แพน’ เพื่อนซี้ร่วมเดินทางของ ‘โมส ปวเรศ’ 

ชายในเสื้อผ้าสีดำคลาสสิก กางเกงยาวเต่อนิดๆ ทั้งมินิมอล และได้กลิ่นอายญี่ปุ่นราวมีเสียงคอนนิจิวะ! ตะโกนออกมาทั้งจากตัวเขา และภายใน ‘ฟัง สตูดิโอ’ (Fung Studio Handpan Bangkok) เครื่องโลหะคล้ายกระทะประกบกันสองด้านเรียงรายบนชั้นวางนับสิบชิ้น เมื่อได้เห็นมันครั้งแรก ก็จะตราตรึงจนครั้งต่อไปคงจำได้ทันทีว่านี่แหละ แฮนด์แพนชัวร์ๆ ด้วยทรงโดมกลม หน้าตาคล้ายยานอวกาศจิ๋ว มีหลุมบ่อเหมือนพระจันทร์เป็นเอกลักษณ์ และไม่เหมือนเครื่องดนตรีชนิดไหน 

ไม่ต่างกับนักดนตรีตรงหน้าเรา ‘โมส-ปวเรศ เจนภูมิเดช’ ผมหยิกดำไฮไลต์ทองส่งให้ความขี้อายในตัวเขาดูจะกลายเป็นความกล้า แหวกแนว และมีสไตล์ คอลัมน์นี้เราจะพาไปพูดคุยกับอดีตเชฟที่ตัดสินใจวางมือลงจากตะหลิว และทำตามเสียงเรียกร้องภายในตัวเอง ให้วิถีชีวิตกลับคืนสู่เสียงดนตรี กระทั่งกลายเป็นศิลปินแฮนด์แพนอย่างเต็มตัว 

สำหรับผู้ที่ยังไม่รู้จักแฮนด์แพนก็ไม่เป็นไรนะ เราจะค่อยๆ เริ่มเดินทางไปพร้อมกัน เผื่อคุณอาจจะได้ยินเสียงของมันออกมาจากบทความนี้ และค้นพบว่าโอ! มันเพราะมากจนรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์เลย 

สำหรับมุมมองของคนที่รู้จักแฮนด์แพนเป็นอย่างดี คิดว่าเครื่องดนตรีชิ้นนี้มีเสน่ห์ยังไงบ้าง

แฮนด์แพน คือ เครื่องดนตรีคล้ายๆ กีตาร์ เปียโน กลองชนิดหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากถ่ายทอดเขาออกไปยังไง ผมรู้สึกว่าเสน่ห์ของเขาสามารถถ่ายทอดออกไปได้หลายแบบ มากกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น เพราะเราใช้มือสัมผัสกับโลหะแบบไม่ได้ผ่านอะไรเลย แฮนด์แพนเป็นเครื่องดนตรีที่พรีเซนต์ตัวเองออกมาได้ชัดเจน ตอนแรกผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะสะท้อนออกมาได้ขนาดนี้ แต่พอมาเปิดสตูดิโอของตัวเองก็ทำให้เห็นคนหลากหลาย อย่างเช่นคนใจร้อนที่อยากจะตีให้ได้เลยในครั้งแรก แต่เมื่อไหร่ที่เราตีแฮนด์แพนเร็วๆ แรงๆ เสียงจะออกมาไม่ค่อยดี บางคนใจเย็นมาก เขาจะนั่งตีแค่ ปึ๊ง! ก็จะทำให้ผ่อนคลาย

จุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณรู้จักแฮนด์แพนเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

เมื่อประมาณ 6-7 ปีที่แล้ว ผมเห็นแฮนด์แพนครั้งแรกในยูทูบ รู้สึกว่ามันเป็นเครื่องดนตรีที่แปลกตาดี เป็นเครื่องดนตรีที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พอได้หาข้อมูลเรื่อยๆ ก็ค้นพบว่ามีคนทำแฮนด์แพนอยู่ทั่วโลกเลย แต่ราคามันค่อนข้างสูง จนกระทั่งผมไปเจอแบรนด์หนึ่งที่ไทยก็เลยซื้อมาลองเล่น 

ย้อนกลับไปเมื่อตอนเด็กๆ ผมเคยตีกลองมาก่อน ซึ่งแฮนด์แพนก็เป็นเครื่องดนตรีที่ได้ตีเหมือนกัน เมื่อก่อนผมตีกลองชุด เสียงก็จะดังอย่างเดียวเลย แต่พอเป็นแฮนด์แพนผมรู้สึกว่าตีแล้วมีเมโลดีออกมา รู้สึกว่าเป็นเครื่องดนตรีที่มีเสน่ห์มากสำหรับผม สามารถทำเป็นคอร์ดในตัวเองได้ มีพาร์ทจังหวะออกมาด้วย เหมือนรวมทุกอย่างไว้ในตัวเอง

ก่อนหน้าที่คุณจะมาเล่นแฮนด์แพนจริงจัง คุณทำอะไรมาก่อน

ผมทำอาหารมาก่อน ตั้งแต่เรียนมหา’ลัยปี 1 ทำมาเกือบ 10 ปี อยู่ในครัว แข่งทำอาหารแบบจริงจังเลย แต่พอถึงจุดหนึ่งก็รู้สึกว่ามันเหนื่อยจัง อยากหาอย่างอื่นทำบ้าง พอมาเจอแฮนด์แพน ทำให้เราได้กลับไปเล่นดนตรีอีกครั้ง 

จุดเปลี่ยนสำคัญจากการทำอาหารหันมาเล่นดนตรีแฮนด์แพนคืออะไร 

เมื่อก่อนผมทำอาหารแบบจริงจังมาก แต่สุดท้ายก็รู้สึกว่าไม่ได้ตอบโจทย์อะไรกับตัวเรา จริงๆ แล้วผมแค่อยากทำอาหารกินที่บ้านแบบมีความสุข ผมไม่ได้อยากจะไปอยู่ในพาร์ตที่กดดันขนาดนั้น ซึ่งการที่เราอยู่แต่ในครัว ทำอาหารหน้าเตาทุกวัน มันมีแต่พลังที่รุนแรง วุ่นวาย ตื่นเช้าทำงาน 10 โมง เลิก 4 ทุ่ม อยู่ในรูทีนเดิมๆ อย่างนั้นทุกวัน ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย เราไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น 

หลังจากนั้นในพาร์ตของอาหารก็ค่อยๆ ห่างออกไป ส่วนแฮนด์แพนก็ค่อยๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น เริ่มจากการออกจากงานประจำ ทำอาหารขายเองก่อน ถ้ามีเวลาว่างก็ไปเล่นตามอีเวนต์บ้าง พยายามหางานจากแฮนด์แพนด้วย มีตลาดไหนที่เขาอยากได้นักดนตรี ผมก็ไปขอเปิดหมวก ซึ่งช่วงแรกที่ผมเริ่มออกไปเล่นข้างนอกก็คาดหวังว่าจะได้เงินนะ แต่พอไม่ได้อย่างที่หวังก็ทำให้รู้สึกแย่มากกว่าเดิม ก็เลยคิดว่าตัดเรื่องเงินออกไปดีกว่า

สำหรับคุณแล้วกลองกับแฮนด์แพน ให้ความรู้สึกต่างกันยังไง

ค่อนข้างต่างเหมือนกันครับ อย่างตอนเล่นแฮนด์แพนผมได้เลือกเครื่องดนตรีด้วยตัวเอง เพราะตอนเด็กๆ ที่เล่นในวงโยธวาทิตก็จะมีคนจับให้เล่นนู่นเล่นนี่ แต่แฮนด์แพนเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกๆ ที่ผมซื้อเอง ทั้งที่ราคาสูง เป็นความต่างที่ได้เลือกในสิ่งที่ชอบจริงๆ แล้วผมก็สนุกกับมันมาก ทำให้รู้ว่าเครื่องดนตรีนี้ทำอะไรได้อีกเยอะแยะเลย 

ผมเล่นแฮนด์แพนเพราะอยากเล่น เราอยากจะทำมันให้ได้ มีพลังบางอย่างที่ทำให้บอกตัวเองทุกวันว่าต้องซ้อม ไม่เคยมีความรู้สึกว่าวันนี้ไม่อยากเล่น ผมอยากเล่นทุกวัน ก่อนหน้านี้ผมทำงานอย่างอื่นมาก่อน พอเลิกงานก็จะกลับมาเล่นแฮนด์แพน ซ้อมแบบเคร่งครัดกับตัวเองด้วย จดว่าวันหนึ่งจะซ้อมกี่นาที แล้วก็พยายามทำแบบนั้นให้ได้ทุกวัน 

ทำไมแฮนด์แพนถึงราคาสูง

เพราะมันเป็นเครื่องดนตรีที่ทำยาก จุดเริ่มต้นของแฮนด์แพนจริงๆ มาจากเครื่องดนตรีแอฟริกาชื่อว่า สตีลแพน (Steelpan) คือการเอาถังน้ำมัน 200 ลิตรใหญ่ๆ ใช้ค้อนบีบส่วนของก้นถังให้ใหญ่ขึ้นแล้วก็ปั๊มหลุม แต่ละหลุมก็ต้องดูว่าจะทำยังไงไม่ให้ตีแล้วไปกระทบกัน และถ้าปั๊มหลุมลงไปแล้วเกิดมีอันหนึ่งแตกขึ้นมาก็ต้องทิ้งอย่างเดียว  

คุณเริ่มศึกษาวิธีเล่นแฮนด์แพนยังไง

นั่งเรียนเองในยูทูบเลยครับ ตอนที่ซื้อมาพี่คนขายเขาก็แนะนำว่ามันเล่นยังไง หลังจากนั้น ผมก็ซื้อคอร์สออนไลน์ของคนต่างชาติที่เขาทำคลาสสอนไว้ในเว็บไซต์ แต่คอร์สพวกนั้นจะดีสำหรับคนที่มีพื้นฐานดนตรีอยู่แล้ว แฮนด์แพนไม่ได้เล่นยาก แต่ก็ไม่ง่าย ผมแค่ตีลงไปมันก็ดูง่าย แต่ความจริงต้องใช้เวลาในการฝึกสัมผัส (Touching) ให้เพราะ ต้องทำซ้ำๆ ถ้าเราอยากจะให้แตกต่างจากคนอื่นก็ต้องหาสไตล์ความเป็นตัวเองออกมาให้ได้

สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเล่นแฮนด์แพน คือความเบาและสบาย ตอนแรกผมเองก็คิดว่าตีแล้วจะเหมือนกลอง จนผมได้เจอเสน่ห์ของศาสตร์แฮนด์แพน คือเราสามารถจะครีเอตเสียงแบบไหนออกไปก็ได้จากมือของเรา

จำได้ไหมว่าเล่นให้ใครฟังเป็นคนแรก

ส่วนใหญ่เป็นคนรอบตัวอย่างเช่นพี่ที่เล่นดนตรีมาด้วยกัน แต่ถ้าเป็นคนข้างนอกก็จะเป็นงานแรกที่ผมไปเล่นเลยคือตลาดที่ชื่อว่า Noise Market ก็ขอเขาไปเล่นแล้วก็ทำเรซิ่นแฮนด์แพนอันเล็กๆ ทำซีดีเอาไปขาย 

จุดไหนที่ทำให้รู้สึกมั่นใจในการเล่นแฮนด์แพน

ผมวัดจากตัวเองด้วยการซ้อมแล้วถ่ายวิดีโอ ดูตัวเองเรื่อยๆ โชคดีที่ช่วงนั้นมันไม่ได้มีข้อเปรียบเทียบ ไม่มีตัววัดว่าคนไหนดีไม่ดี อย่างดนตรีมันวัดกันยาก ผมรู้สึกว่าผมพอใจในพาร์ตที่ผมเล่น ผมก็เลยเอาออกไปเล่นข้างนอก

เคยมีคนที่มาฟังเราเล่นแล้วบอกว่าชอบเสียง และวิธีการเล่นของเรามากเลย บางคนไม่ได้พูดอะไร แต่เขาร้องไห้ออกมาก็มี มันคงเหมือนเราฟังอะไรที่ไม่เคยได้ยินแล้วรู้สึกเพราะมากจนน้ำตาไหล อย่างสมมติบางทีการที่เราได้ฟังเพลงอะไรแล้วอินมากๆ ก็คงคล้ายกัน

มีช่วงไหนที่รู้สึกว่าตัวเองเล่นไม่เพราะไหม

ตอนเข้าปีที่ 2 ที่ 3 รู้สึกว่าเหนื่อยจัง ผมพยายามจะหางานด้วยแต่พอไม่มีก็รู้สึกท้อ รู้สึกแย่ ไม่ค่อยมีใครสนใจสิ่งที่เราทำเท่าไหร่เลย คุยกับคนอื่นยากครับ แต่พอได้ไปดูไบก็ลืมเรื่องพวกนี้ไป 

การเดินทางของแฮนด์แพนที่ผ่านมา คุณพามันไปที่ไหนมาแล้วบ้าง

ส่วนใหญ่ผมเล่นเป็นงานอดิเรกก่อน แต่ระหว่างนั้นก็มีคนทักมาอยากให้สอนเรื่อยๆ ส่วนตัวผมไม่ได้ชอบสอนคนอื่น มันเป็นการแนะนำมากกว่า คนก็เห็นมากขึ้นว่ามีคนนี้เล่นแฮนด์แพนอยู่นะ เริ่มจากเล่นในกรุงเทพ แล้วก็ได้ไปต่างประเทศครั้งแรกคือที่ดูไบ 

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญจริงๆ คือคอนเสิร์ตแฮนด์แพนที่เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในแถบเอเชีย คนญี่ปุ่นจะเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้มากที่สุด หลังจากนั้นผมก็รู้สึกชอบมาก ผมบินไปอยู่ญี่ปุ่นเลย แล้วออกไปเล่นแฮนด์แพนที่สวนทุกวัน เอากระเป๋าไปวางไว้ก็จะมีคนมานั่งคุยกับเราทุกวัน ให้เงินบ้าง ซื้อแผ่นซีดีของเราบ้าง ทำให้มีรายได้ ผมรู้สึกมีความสุขมากที่เราสามารถอยู่ได้ด้วยแฮนด์แพน ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไม่ได้ทำอย่างอื่น เล่นแต่แฮนด์แพนอย่างเดียว ผมเริ่มไปจัดอีเวนต์เองในร้านอาหาร พอมีคนซื้อบัตรเข้ามาฟังก็ทำให้ผมได้รู้จักกับคนญี่ปุ่นมากขึ้น แล้วเขาก็มาชวนเราไปเล่นอีก จนเป็นคอนเน็กชันต่อกันไปเรื่อยๆ

คุณคิดว่าที่ไหนในไทยถึงจะเหมาะกับการเล่นแฮนด์แพน

สวนสาธารณะครับ แต่อากาศก็ค่อนข้างร้อน แล้วจะส่งผลกระทบกับแฮนด์แพน พอความร้อนโดนสแตนเลส เสียงจะเพี้ยนได้ เป็นเหตุผลที่ผมไม่ค่อยเอาไปเปิดหมวกที่ไทย แต่จริงๆ ผมอยากนะ อยากให้ทุกคนได้เห็นสิ่งใหม่ๆ

ทำไมถึงอยากให้คนรู้จักแฮนด์แพนมากขึ้น

ผมว่ามันเป็นเครื่องดนตรีที่ง่าย ถูกเซ็ตเสียงมาแล้วไม่ให้เพี้ยน ไม่ต้องอิงดนตรีเลยก็ได้ แค่เราตีมั่วๆ ไปเรื่อยๆ ก็ทำได้ ผมอยากให้คนเล่นดนตรีเยอะๆ ผมคิดว่าทุกคนสามารถเล่นดนตรีได้ เหมือนตอนเด็กๆ เรายังร้องเต้นโดยที่เราไม่รู้เรื่องได้เลย พอเราโตขึ้นมาแล้วถูกกรอบบางอย่างกั้นไว้ว่าทำไม่ได้ 

ตอนผมอยู่ที่ญี่ปุ่นเคยเห็นคนเล่นแฮนด์แพนด้วยกันเป็นสิบคน เขาตีพร้อมกันแล้วดังกังวาน รู้สึกว่าเพราะมากเลย ผมอยากเห็นคนไทยเล่นแฮนด์แพนเยอะๆ เห็นคนเก่งๆ ขึ้นมา รู้สึกว่ามันมีพลังบางอย่าง มันสนุก ได้พูดคุยกันมากกว่าการนั่งเล่นคนเดียว

อะไรทำให้ตัดสินใจมาเปิด Fung Studio

หลังกลับมาจากญี่ปุ่น ผมก็ไปสอนตามบ้านคน หรือนักเรียนก็มาเรียนที่บ้านผมบ้าง จนคนเริ่มเยอะขึ้นก็อยากแยกสเปซออกมา แต่จุดประสงค์แรกที่เปิด จริงๆ คืออยากทำให้คนรู้จักเครื่องดนตรีชนิดนี้มากขึ้น ผมอยากตื่นขึ้นมาแล้วเห็นแฮนด์แพนเยอะๆ วันนี้เราจะหยิบอันนี้เล่นนะ แต่ละอันเสียงมันไม่เหมือนกัน 

ตั้งแต่มาจับแฮนด์แพนเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณมากน้อยขนาดไหน

ค่อนข้างเปลี่ยนไปเหมือนกัน จากการทำอาหาร พอได้มาเจอแฮนด์แพนผมก็หมกมุ่นกับมันมากๆ ผมไม่ค่อยชอบรูทีนตัวเองเมื่อก่อนเท่าไหร่ ตื่นมาแล้วทำงานถึงดึกๆ ไม่ได้ใช้ชีวิตตัวเองเลย ตั้งแต่มีแฮนด์แพน ผมกำหนดวิถีชีวิตตัวเองได้เลยว่าจะทำอะไรตอนไหน 

พอผมเล่นไปเรื่อยๆ เสียงของมันค่อนข้างสบาย และผ่อนคลาย แฮนด์แพนพาผมเข้ามาอยู่ในความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น ไปคอลแลบกับโยคะสมาธิบ้าง การบำบัดด้วยเสียงบ้าง ผมรู้สึกว่าแฮนด์แพนเป็นเหมือนเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ทำให้เข้าไปในสุขภาวะ (Well-being) ได้ ตอนเริ่มต้นเล่นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย อยากจะเล่นแล้วตีให้ได้อย่างเดียว สุดท้ายก็ค่อยๆ ถูกจัดสรรมาเรื่อยๆ ทำให้ได้เห็นมุมมองหลายแบบ

จินตนาการว่าถ้าตื่นมาแล้วไม่ได้เห็นแฮนด์แพนจะเป็นอย่างไร

อาจจะรู้สึกหวิวๆ นิดหนึ่ง ผมไปไหนมาไหนทุกวันนี้ก็พกแฮนด์แพนไปด้วยเกือบทุกที่เลยนะ ถ้าขับรถแล้วมีแฮนด์แพนก็จะอุ่นใจ เหมือนเป็นอวัยวะหนึ่งของผมไปแล้ว ผมรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีแฮนด์แพนอยู่ด้วย

ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง พอมีแฮนด์แพนแล้วผมรู้สึกว่าสามารถเล่าเรื่องได้ ถ่ายทอดสิ่งที่รู้สึก หรืออยากจะสื่อสารออกไป ดนตรีเลยค่อนข้างสำคัญสำหรับผม 

ตั้งแต่เรานั่งพูดคุยกับโมส แทบไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่เขาจะไม่กอดแฮนด์แพนไว้ในอ้อมแขน เว้นเสียแต่ตอนที่หันไปเอื้อมหยิบโพยคำตอบมาดูทั้งหัวเราะ แม้เขาจะพูดไม่เก่ง แต่นั่นกลับมีเสน่ห์ในสายตาคู่สนทนาอย่างเราไม่น้อย 

ภายในสตูดิโอยังมีเครื่องกระทบอีกหลายอย่างให้ได้ลองเล่น ทั้งเครื่องเป่า เครื่องปั้นดินเผา ของสะสมที่เขาเก็บมาจากญี่ปุ่น ไม่รู้เลยว่าโมสมีความสามารถอะไรที่ซ่อนอยู่อีกไหม แต่องค์ประกอบทั้งหมด ณ ตอนนี้ก็ถูกจัดวางเป็นระเบียบอย่างเข้ากันดีกับผู้เป็นเจ้าของ 

เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งยามเปิดประตู ‘ฟัง สตูดิโอ’ ยังคงดังอย่างต่อเนื่องต้อนรับคนที่อยากทำความรู้จักกับแฮนด์แพน และเราจะยังไม่ได้ยินคำว่า ‘ซาโยนาระ’ บอกลากันเร็วๆ นี้แน่ จะมีก็แต่เสียงกังวานเสนาะหูให้ผ่อนคลายในทุกครั้งที่คุณย่างกรายเข้ามา แม้จะกลับมา หรือไม่กลับมาอีก แต่โมส และแฮนด์แพนเพื่อนซี้ของเขาพร้อมที่จะกล่าวอิริไชมาเสะ! ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ

ตอนนี้ a day มีกิจกรรมร่วมกับทาง Fung Studio กิจกรรมที่จะพาคุณไปสัมผัสกับห้วงแห่งชาให้มากกว่าที่เคย พร้อมหลับตาฟังเสียงเครื่องดนตรีแฮนด์แพนแสนผ่อนคลาย กับเวิร์กชอป ‘a day x Fung Studio : Sip for Soul ครั้งที่ 1’ 

สำรองที่นั่งได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 23 พฤษภาคม 2025 เวลา 23:59 น. เท่านั้น 

โอ๊ะ! แต่ที่นั่งมีจำนวนจำกัดนะ เพราะนี่เป็นกิจกรรมสุดพิเศษที่ a day ร่วมจัดกับทาง Fung Studio เลยเชียว สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://forms.gle/AC9ZtTPZgjqqoVZs7 

AUTHOR

PHOTOGRAPHER

นอยบอย

ช่างภาพที่ชอบนอยเพราะน้ำตาลตก 🥲