ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปี เรื่อง ‘ผี’ ยังคงอยู่ในชีวิตของพวกเราเสมอ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่ไม่เคยตายจากไป แต่เรื่องเล่า ‘ผีๆ’ ยังคงหาที่ทางร่วมสมัยได้เสมอ
ในวัยเด็ก เรากลัวผีอย่างตรงไปตรงมา มันทำงานผ่านจินตนาการที่โลดแล่นไม่หยุดพัก บวกกับเรื่องเล่า เรื่องหลอก ของผู้หลักผู้ใหญ่ ยิ่งทำให้ความสั่นกลัวที่มีต่อเรื่องลี้ลับนั้นชวนขนหัวลุกและคุกคามไปกันใหญ่
แต่เมื่อเติบโตขึ้นเช้าสู่ช่วงวัยรุ่นวัยหนุ่มสาว ประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกเราว่า ผีเป็นเพียงภาพซ้อนทับของจินตนาการและความไม่รู้ เมื่อสบายใจขึ้นดังนั้น สำหรับบางคน ผีอาจกลายเป็นเพียงความงมงาย หรือสิ่งที่มีไว้ซึ่งความบันเทิงในชีวิตเท่านั้น
และในวัยหนุ่มสาวนี่เอง ‘ความบันเทิงแบบหลอนๆ’ คือหนึ่งในเครื่องมือกระชับสัมพันธ์ระหว่างคู่รักเป็นอย่างดี เคยมีผลสำรวจที่บอกว่า คนโสดกว่า 63% มองว่าการดูหนังผีหรือหนังสยองขวัญ เป็นกิจกรรมการออกเดตที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ 49% ยังเห็นพ้องกันว่า การแชร์ประสบการณ์ร่วมที่มีต่อภาพยนตร์แนวนี้ ทำให้เกิดความเข้ากันที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างทั้งคู่
เชื่อว่าไม่น้อยเลย ที่เคยชวนคนรักไปดูหนังผีด้วยกันในโรง หรือชวนกันคลุมโปงดูหนังผีกันในห้อง
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาเบื้องหลังของความเกี่ยวข้องระหว่างความสยองขวัญและความโรแมนติก เพราะเมื่อความกลัวที่เกิดขึ้นผ่านการดูหนังนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจริงๆ แต่เป็นความบันเทิงผ่านจอที่ไม่มีทางคุกคามเราได้ ในแง่หนึ่ง เราจึงมั่นใจได้ว่า ความกลัวจะเป็นเพียงประสบการณ์ความเพลิดเพลิน ความน่าตื่นเต้น และความแปลกใหม่ที่เข้มข้นเท่านั้น ด้วยสัญชาตญาณความอยากรู้ในตัวมนุษย์ เราจึงยิ่งอยากแสวงหามัน นั่นเป็นเหตุผลเดียวกับที่ว่า ทำไมบางคนถึงชอบเสพหนังผีนัก
แน่นอนว่า เมื่อประสบการณ์นี้ถูกแชร์ร่วมกับใครบางคนที่นั่งห่มผ้าอยู่ข้างๆ มันจึงกลายเป็นความโรแมนติกจากความรู้สึกไม่ปลอดภัย(แบบหลอกๆจากในหนัง) ที่ช่วยกระตุ้นความรู้สึกอยากปกป้อง อยากใกล้ชิด มากขึ้น จนกลายเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไปโดยปริยาย
ถ้ายังไม่เชื่อ ลองดูเหตุผลเหล่านี้ แล้วคุณผู้อ่านอาจจะอยากลองหาหนังผีสักเรื่องมานั่งดูกับคนรักก็ได้นะ
การดูหนังผี: มีแนวโน้มทำให้เกิดการ ‘กอด’ กันมากขึ้น
นึกง่ายๆ เมื่อเรากลัว แนวโน้มที่เราจะอยากแนบชิดกับคนข้างๆ ก็มีมากขึ้น การดูหนังผีจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทลาย ‘กำแพง’ ทางกายภาพนั้น การกอดและหนังผี แทบจะเกิดมาเป็นของคู่กัน ถึงแม้ว่าเราอาจไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่การดูหนังผีก็สามารถเป็นตัวจุดประกายความต้องการใกล้ชิดได้มากขึ้น
การดูหนังผี: ลดความเครียดจากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นของสมอง
เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่กำลังเข้มข้นทางความรู้สึกยามดูหนังผี มันสามารถลดระดับความเครียดของเราได้ ที่สำคัญ สมองของเราจะตอบสนองต่อความน่ากลัวในหนังผีทำให้ร่างกายปล่อยวางและผ่อนคลาย จนแสดงออกมาผ่านปฏิกิริยาของร่างกายในรูปแบบที่น่าสนใจได้ และสิ่งเหล่านี้เอง จะช่วยทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับคนข้างๆ มากขึ้น คิดตามง่ายๆ บางทีคนข้างๆ คุณอาจจะแสดงปฏิกิริยาแปลกๆ บางอย่างในช่วงที่ผีโผล่ ตุ้งแช่! ออกมา แต่มันกลับน่ารักสำหรับคุณก็ได้
การดูหนังผี: ทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุข
ข้อนี้ฟังดูวิทย์จ๋าขึ้นมาหน่อย แต่เมื่อเราดูหนังผี สมองของเราจะหลั่งสารโดปามีน ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกพึงพอใจ เมื่อได้รับสิ่งที่ต้องการหรือมีประสบการณ์ที่ถูกใจ เราจึงรู้สึกมีความสุข เมื่อเกิดสุข ความอยากใกล้ชิดกับคนข้างๆ จึงตามมานั่นเอง
การดูหนังผี: ช่วยขยายพื้นที่ในการเรียนรู้ระหว่างกัน
ความจริงก็คล้ายกับการดูหนังประเภทอื่น แต่หนังผีก็เป็นประเภทหนึ่งที่ทำให้เราได้วิพากษ์สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังได้ ทั้งบท การแสดง และรายละเอียดต่างๆ ในหนัง ซึ่งเปิดพื้นที่ให้เราได้พูดคุยกัน นอกจากนี้ การดูหนังผียังทำให้เราได้รู้ว่าคนข้างๆ มีปฏิกิริยาต่อสถานการณ์ที่น่ากลัวอย่างไร ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งในการเรียนรู้และเข้าใจภาพรวมระหว่างกันมากขึ้น
การดูหนังผี: ช่วยดึงด้านเปราะบางของกันและกัน
บางครั้ง ความกลัวในการดูหนังผีก็สามารถช่วยดึงเอาด้านที่เปราะบางออกมาได้ไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าอีกฝ่ายก็เช่นกัน เมื่อความเปราะบางทั้งสองด้านถูกตีแผ่ออกมาให้กันและกันเห็น มันก็สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากในความสัมพันธ์ได้
ในวัยเด็ก ผ้าห่มที่เคยเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องเราจากภัยคุกคามของผีและทำให้รู้สึกอุ่นใจยามนอนหลับ อาจกลายเป็นเครื่องมีกระชับสัมพันธ์ได้ในวัยหนุ่มสาวยามดูหนังผีด้วยกันก็ได้นะ