วันที่ฉันเลือกมาแลกเปลี่ยนที่เมืองไทย

ถ้าหันมองชีวิตที่ผ่านมาจนถึงวันนี้และให้ฉันเลือกวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ฉันจะเลือกวันที่ 7 ของเดือนธันวาคม ในปี พ.ศ. 2555

วันนั้นคือ วันที่ต้องส่งชื่อมหาวิทยาลัยซึ่งฉันจะไปแลกเปลี่ยน

มหาวิทยาลัยของฉันชื่อ Chengchi University เป็นมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของประเทศไต้หวัน
ระหว่างเรียนอยู่ นักศึกษาเลือกมหาวิทยาลัยที่อยากไปแลกเปลี่ยนได้เกือบทุกที่ เริ่มจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจนถึงมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยคิด (เช่น เคยได้ยินว่ามีรุ่นพี่ไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยของเปรู สถานที่ที่เขาไปเที่ยวบ่อยคือมาชูปิกชู ทำให้คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกช็อกและอิจฉา นักศึกษาอาจไม่เคยคิดว่ามาชูปิกชูจะอยู่ในชีวิตประจำวันของเขาได้)

ที่จริงแล้ว ตอนฉันเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 ก็วางแผนแล้วว่าอยากไปแลกเปลี่ยนตอนชั้นปีที่ 3 หรือชั้นปีที่ 4 เพราะคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี จะได้เจอโลกใหม่ๆ ตอนแรกคิดว่าอยากไปแลกเปลี่ยนที่เนเธอร์แลนด์ เพราะชอบดอกทิวลิปมาก (เป็นเหตุผลที่โรแมนติกมาก แต่ไม่มีประโยชน์อะไรกับการเรียนเลย 555)

แต่สุดท้าย มหาวิทยาลัยที่ฉันเลือกไปแลกเปลี่ยนคือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะตั้งแต่ชั้นปีที่ 2 ฉันได้เรียนวิชาเลือกเสรีเป็นภาษาไทย ซึ่งไม่ใช่ major และเรียนไปก็ไม่ค่อยได้ภาษาไทยเท่าไหร่ แถมเสียเวลาไปตั้งเยอะ ฉันรู้สึกว่าอยากสื่อสารกับคนอื่นด้วยภาษานี้ได้ เลยเปลี่ยนใจว่าอยากไปแลกเปลี่ยนที่ไทย คิดว่าสิ่งแวดล้อมอาจช่วยได้

ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าอยากไปมหาวิทยาลัยไหน ที่ที่ไปได้คือมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทีแรกฉันอยากไปกรุงเทพฯ เพราะเป็นเมืองหลวงของไทย แต่ฉันไม่ชอบเรื่องวุ่นวาย ได้ยินว่าในกรุงเทพฯ รถติด และมีเพื่อนซึ่งไปแลกเปลี่ยนที่กรุงเทพฯ มาบอกว่าไม่ค่อยไหว ทำให้ฉันต้องคิดว่า ถ้าเลือกแลกเปลี่ยนที่กรุงเทพฯ จะมีความสุขไหม

ในมหาลัยของฉันไม่เคยมีคนไปแลกเปลี่ยนที่เชียงใหม่ จึงไม่มีคนที่ปรึกษาได้ คนที่ถามได้คือคุณกูเกิล
เสิร์ชมาแล้ว มีคนมากมายบอกว่าเชียงใหม่เหมือนเมือง Tainan (台南)ของไต้หวัน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยศิลปะ เหตุผลที่สองที่ทำให้ฉันเลือกไปเชียงใหม่คือ ตอนเรียนตัวฟรีตัวหนึ่งชื่อ Introduction of Southeast Asian มีรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มาแบ่งปันเรื่องชีวิตที่นั่น มีเรื่องหนึ่งที่ฉันดูแล้วขนลุกคือ ‘การรับน้องขึ้นดอย’ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ของมหาวิทยาลัยนี้ หลังดูแล้ว ฉันแน่ใจมากขึ้นว่าอยากไปแลกเปลี่ยนที่ มช. เพราะอยากมีประสบการณ์แบบนั้น อยากรู้ว่าทำไมทุกคนในวิดีโอใช้ใจและพลังทั้งหมดกับการรับน้องนี้

สุดท้ายแล้ว ด้วยเหตุผลดังกล่าว แม้ว่าไม่มีรุ่นพี่สักคนเคยไปแลกเปลี่ยนที่เชียงใหม่ ฉันก็ตัดสินใจไป

หนึ่งปีผ่านไปแล้ว สองปีผ่านไปแล้ว ถึงวันนี้ ถึงวินาทีนี้ ฉันก็ยังรู้สึกว่าวันที่เราตัดสินใจไปแลกเปลี่ยนที่ มช. เป็นวันเปลี่ยนชีวิตของตัวฉันเอง

หากฉันไม่ได้ตัดสินใจไป ภาษาไทยของฉันอาจจะไม่ได้ถึงขั้นพูดได้ เขียนได้ ฟังได้ อ่านได้ ฉันอาจไม่มีเพื่อนคนไทยที่ใจดีขนาดนี้ ชวนไปเที่ยวทุกที่ สอนคำพูดและคำด่าให้แก่ฉัน หากไม่ได้ตัดสินใจไป ฉันอาจไม่ได้เปิดโลกใหม่ อาจไม่ได้ทำงานที่เกี่ยวกับภาษาไทยและไม่ได้ผูกพันกับประเทศนี้

ภาษาไทยสำหรับฉันอาจแค่เป็นวิชาหนึ่งที่เคยเรียนในช่วงมหาวิทยาลัย

ฉันคิดว่าวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองนั้นอาจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามอายุ เพราะชีวิตของเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังคิดไม่ออกว่า ถ้าฉันอายุ 30 วันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองจะเปลี่ยนไหม

รอก่อนนะ ถึงเวลานั้น เราคงจะรู้แน่นอนล่ะมั้ง

ภาพ unsplash.com

ใครอยากเล่าเรื่องวันเปลี่ยนชีวิตของตัวเองบ้าง คลิกที่นี่เลย

AUTHOR